ตำรวจภาค 9 แจงปมเด้ง “ผกก.โคกเคียน” ยันไม่กลั่นแกล้ง หลังถูกฟ้องกลับข้อหาบุกรุก จ่อฟันวินัย-แพ่ง-อาญา ปมร้องสื่อทำองค์กรเสื่อม
ยะลา – ตำรวจภูธรภาค 9 ชี้แจงกรณีคำสั่งย้าย ผู้กำกับการ สภ.โคกเคียน ยืนยันเป็นการบริหารราชการตามอำนาจหน้าที่ หลังถูก ผู้กำกับการ ที่ถูกย้ายร้องเรียนว่าไม่เป็นธรรมและแจ้งความดำเนินคดีผู้บังคับบัญชา จ่อตั้งกรรมการสอบวินัยกลับปมให้ข่าวทำองค์กรเสื่อมเสีย
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 29 เมษายน 2568 ณ ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนหน้า อำเภอเมือง จังหวัดยะลา พลตำรวจตรี อาชาน จันทร์ศิริ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และในฐานะรองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนหน้า ได้ชี้แจงถึงกรณีที่มีคำสั่งให้ พันตำรวจเอก วีรยุทธ ตาสีพันธุ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรโคกเคียน จังหวัดนราธิวาส ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส และต่อมาพันตำรวจเอก วีรยุทธ ได้ออกมาแสดงความไม่พอใจผ่านสื่อมวลชน โดยอ้างว่าถูกกลั่นแกล้ง อีกทั้งยังได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ในข้อหาร่วมกันบุกรุกเคหสถาน
พลตำรวจตรี อาชาน กล่าวว่า สืบเนื่องจากเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณริมกำแพงด้านหลัง สภ.โคกเคียน เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2568 เวลาประมาณ 18.45 น. ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีข้าราชการตำรวจและประชาชนได้รับบาดเจ็บหลายราย รวมถึงทรัพย์สินทางราชการได้รับความเสียหาย ตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาสจึงได้มีคำสั่งให้ พันตำรวจเอก วีรยุทธ ไปช่วยราชการที่ ศปก.ภ.จว.นราธิวาส เพื่อเป็นการบริหารสถานการณ์และกำลังพล
รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ชี้แจงต่อว่า การที่พันตำรวจเอก วีรยุทธ ร้องเรียนผ่านสื่อว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมและถูกกลั่นแกล้ง รวมถึงการแจ้งความดำเนินคดีผู้บังคับบัญชา อาจทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนต่อประชาชน และส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์กรตำรวจ
ทั้งนี้ การออกคำสั่งย้ายเป็นการดำเนินการตามนโยบายของตำรวจภูธรภาค 9 ที่มุ่งเน้นให้หน่วยมีความเข้มแข็ง หัวหน้าหน่วยต้องอยู่ประจำหน่วย โดยเฉพาะในห้วงที่มีสถานการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อบริหารสถานการณ์ ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา และประชาชน
สำหรับกรณีที่มีผู้บังคับบัญชา คือ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุหลังเกิดเหตุระเบิด ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบอาคารที่ทำการและอาคารบ้านพักของข้าราชการตำรวจภายในบริเวณ สภ.โคกเคียน เป็นการตรวจสอบจากภายนอกเท่านั้น ไม่ได้เข้าไปภายในบ้านพักแต่อย่างใด และจากการตรวจสอบพบว่า สภาพโดยรวมขาดการดูแลเอาใจใส่ ไม่มีความพร้อมในการให้บริการประชาชน
พลตำรวจตรี อาชาน ยืนยันว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้บังคับบัญชาตามอำนาจหน้าที่ภายใต้กฎหมายและระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ได้มีเจตนาใช้อำนาจโดยมิชอบหรือกลั่นแกล้ง พันตำรวจเอก วีรยุทธ แต่อย่างใด หากพันตำรวจเอก วีรยุทธ เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็สามารถใช้สิทธิอุทธรณ์คำสั่งได้ตามขั้นตอนทางกฎหมาย
นอกจากนี้ ในประเด็นที่ พันตำรวจเอก วีรยุทธ ได้ให้ข้อมูลผ่านสื่อมวลชน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อองค์กรตำรวจภูธรภาค 9 ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการทางวินัยกับ พันตำรวจเอก วีรยุทธ แล้ว และอาจพิจารณาดำเนินการทางแพ่งและอาญาต่อไป หากพบว่ามีการกระทำที่เข้าข่ายความผิด