นครพนม – เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2568 ณ สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 จังหวัดนครพนม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในแม่น้ำสายที่ล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย

นายภูมิธรรมกล่าวว่า หน่วยทหารในพื้นที่ โดยเฉพาะมณฑลทหารบกที่ 37 และหน่วยงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่คุ้นเคยกับพื้นที่ ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่แม่สายแล้วทันทีที่เกิดเหตุ โดยถือเป็นภารกิจสำคัญของทหารและรัฐบาลในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนจากภัยพิบัติ และสามารถเข้าดำเนินการได้โดยไม่ต้องรอคำสั่ง ซึ่งรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนด้านงบประมาณค่าใช้จ่ายอย่างเต็มที่

สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาระยะยาว ที่หลายฝ่ายมองว่าปัญหาอุทกภัยในพื้นที่นี้เกิดขึ้นซ้ำซาก นายภูมิธรรมยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาในการแก้ไข เนื่องจากมีความเกี่ยวพันกับปัจจัยภายนอกประเทศ และเป็นภัยธรรมชาติที่เป็นภัยคุกคามใหม่ที่คาดเดาได้ยาก

อย่างไรก็ตาม นายภูมิธรรมได้กล่าวถึงความคืบหน้าว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมอีกกว่า 300 ล้านบาท เพื่อให้หน่วยทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย นำไปพิจารณาใช้ในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ลุ่มน้ำปิงและแม่น้ำกก ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความพยายามของรัฐบาลในการขับเคลื่อนและปรับกำลังพลเพื่อดูแลและให้บริการประชาชนให้มากขึ้น

รองนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า การแก้ไขปัญหาอุทกภัยอย่างยั่งยืนในพื้นที่ดังกล่าวจำเป็นต้องอาศัยการบูรณาการทุกภาคส่วน และวางแผนร่วมกันอย่างเป็นระบบ ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญและกำลังดำเนินการในเรื่องนี้อยู่

ในส่วนของความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น จีนและเมียนมา ซึ่งแม่น้ำสายเป็นพรมแดนและได้รับอิทธิพลจากลุ่มน้ำนานาชาติ นายภูมิธรรมกล่าวว่า การหารือและความร่วมมือระหว่างประเทศในกรอบต่างๆ เช่น กรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (MLC) มีอยู่แล้ว แต่การแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวพันระหว่างประเทศนั้นมีความซับซ้อน ไม่สามารถจบได้ในการพูดคุยเพียงครั้งเดียว จำเป็นต้องทำให้ทุกฝ่ายมองเห็นปัญหาและมีความเข้าใจตรงกัน ซึ่งต้องใช้เวลาในการหารืออย่างต่อเนื่อง เนื่องจากแต่ละประเทศต่างมีอธิปไตยของตนเอง