กรุงเทพฯ – เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 29 เมษายน 2568 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายณพ ณรงค์เดช นักธุรกิจชื่อดัง พร้อมด้วยนายเฉลิมชัย เขียวประดิษฐ์ ทนายความ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เพื่อมอบหลักฐานเพิ่มเติม และเร่งรัดการสอบสวนในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเงินจำนวน 100 ล้านบาท ซึ่งสงสัยว่าอาจเป็นเงินสินบน และเชื่อมโยงกับกรณีที่ตุลาการระดับสูงบางรายกำลังถูกสอบสวนวินัยร้ายแรง

นายเฉลิมชัย เขียวประดิษฐ์ ทนายความของนายณพ เปิดเผยว่า การเดินทางมาในวันนี้ สืบเนื่องจากการที่นายณพได้มอบหมายให้ตนเข้าร้องเรียนต่อ บก.ปปป. ก่อนหน้านี้ ภายหลังจากที่ปรากฏข่าวจากสำนักข่าวแห่งหนึ่ง อ้างแหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (กต.) ว่ามีข้าราชการตุลาการระดับสูงถูกสอบสวนวินัยร้ายแรง ซึ่งตนและนายณพ เชื่อว่าน่าจะเป็นกรณีเดียวกับที่นายณพเคยร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมของตุลาการที่เกี่ยวข้องกับคดีที่คนในครอบครัวณรงค์เดชอีกกลุ่มหนึ่งเป็นโจทก์ฟ้องร้องนายณพ โดยคดีดังกล่าวมีการกล่าวถึงข้อเสนอเงินจำนวน 100 กิโลกรัม ที่คาดว่าจะเป็นเงินสินบน

ทนายความยังกล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากมีข่าวเรื่องเงินสินบน 100 กิโลกรัม ปรากฏขึ้น กลับมีการให้ข่าวในลักษณะสร้างความสับสน โดยอ้างว่าเงินจำนวนดังกล่าวคือเงินวางประกันศาลจำนวน 100 ล้านบาทในคดีเดียวกัน ซึ่งเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อนและไม่ตรงกับข้อเท็จจริง นายณพเองทราบเรื่องเงินวางประกันศาลจำนวน 100 ล้านบาทนี้เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นคู่ความในคดีนั้น

“แต่จากการสอบสวนของ กต. ตามที่มีข่าวออกมานั้น มีการยอมรับในส่วนที่เกี่ยวกับเงิน 100 ล้านบาท ซึ่งไม่ได้ระบุว่าเป็นเงินวางประกันศาล และไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องเงินวางประกันศาลเลย เพราะเรื่องเงินสินบนที่ร้องเรียนเกิดขึ้นในปี 2565 ส่วนเรื่องเงินวางประกันศาลเกิดขึ้นในปี 2566 แม้จำนวนเงินจะเท่ากัน แต่เหตุการณ์และที่มาต่างกันอย่างสิ้นเชิง การที่มีผู้ออกมาให้ข่าวเบี่ยงเบนว่าเป็นเงินก้อนเดียวกัน ทำให้เกิดความสับสนในสังคมตามที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านี้” นายเฉลิมชัยอธิบาย

ด้านนายณพ ณรงค์เดช กล่าวเสริมว่า ตนต้องการยืนยันข้อเท็จจริงว่า เงินสินบน 100 ล้านบาทที่ถูกกล่าวถึงในกระบวนการสอบสวนของ กต. ตามที่เป็นข่าว คือคนละส่วนกับเงินวางประกันศาล 100 ล้านบาทโดยสิ้นเชิง ตนทราบดีว่ามีการวางเงินประกันศาลจริงในคดีที่ตนเป็นคู่ความ แต่สิ่งที่รองอธิบดีฯ ยอมรับไว้ในกระบวนการสอบสวนของ กต. คือเงินสินบน ไม่ใช่เงินวางประกันศาล

“ในวันนี้ ผมนำหลักฐานส่วนหนึ่งที่ผมมีอยู่มามอบให้พนักงานสอบสวน บก.ปปป. เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาและขยายผลต่อไป ผมขอย้ำว่า ในส่วนตัวผมนั้น ยังไม่ได้สรุปว่าเงินสินบนก้อนดังกล่าวเป็นของใคร และโจทก์ในคดี หรือบุคคลอื่นใดที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องเป็นผู้เสนอเงินก้อนนี้หรือไม่ เรื่องนี้ต้องเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะดำเนินการสืบสวนสอบสวน แสวงหาหลักฐานเพิ่มเติมจากที่ผมนำมามอบให้ เพื่อให้กระบวนการเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย และนำผู้กระทำความผิดมาลงโทษให้ได้” นายณพกล่าว

เบื้องต้น พนักงานสอบสวน บก.ปปป. ได้รับมอบเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมจากนายณพและทนายความแล้ว และจะดำเนินการตรวจสอบเพื่อนำเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการตามขั้นตอนต่อไป