หอการค้าไทย ชี้ ‘แรงงานไทย’ แบกหนี้กว่า 4 แสนบาท/ครัวเรือน ยอดออมเพิ่มขึ้น แต่ยังหวั่น ‘ตกงาน’ และผลกระทบค่าแรง 400 บาท

กรุงเทพฯ – ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย โดยนายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีและประธานที่ปรึกษาศูนย์ฯ ได้เปิดเผยผลสำรวจสถานภาพแรงงานไทย ประจำปี 2568 ซึ่งได้ทำการสำรวจกลุ่มผู้มีรายได้ไม่เกิน 15,000 บาท จำนวน 1,250 ราย ระหว่างวันที่ 19-25 เมษายน 2568 พบว่า สถานภาพของแรงงานไทยโดยรวมดูดีขึ้น เมื่อเทียบกับปีก่อน

ปัจจัยที่สะท้อนสถานะที่ดูดีขึ้นคือ ตัวชี้วัดภาระการผ่อนชำระหนี้ต่อเดือน ซึ่งลดลงเหลือเฉลี่ย 8,407 บาท จากเดิมที่เคยสูงถึง 9,200 บาท แม้ว่าภาระหนี้ครัวเรือนเฉลี่ยต่อครัวเรือนจะยังคงสูงอยู่ที่ 432,318 บาท โดยส่วนใหญ่ 82.9% เป็นหนี้ในระบบ ขณะที่หนี้นอกระบบมีแนวโน้มลดลง ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการที่ภาครัฐเร่งปรับโครงสร้างหนี้แรงงานให้เข้ามาอยู่ในระบบมากขึ้น เพื่อช่วยลดภาระดอกเบี้ยให้กับลูกหนี้

นอกจากนี้ อัตราการออมเงินของแรงงานไทยก็เพิ่มสูงขึ้น จากสัดส่วน 33.8% เป็น 38.6% ของรายได้ที่ได้รับ ปัจจัยหลักมาจากผู้ใช้แรงงานเพิ่มความระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น ลดการใช้จ่ายในสินค้าหรือบริการที่ไม่จำเป็น พยายามควบคุมค่าใช้จ่ายให้ใกล้เคียงกับรายได้ อีกทั้งยังมีการหารายได้เสริม และส่วนหนึ่งได้รับเงินช่วยเหลือจากภาครัฐ เช่น ผ่านโครงการแจกเงิน

อย่างไรก็ตาม แม้สถานภาพการเงินบางส่วนจะดีขึ้น แต่แรงงานไทยจำนวนไม่น้อยยังมีความกังวล โดย 37.7% รู้สึกกังวลต่อความไม่มั่นคงต่องานที่ทำอยู่ในปัจจุบัน และกว่า 30% มองว่าโอกาสที่จะตกงานอยู่ในระดับปานกลางถึงมากที่สุด

นายธนวรรธน์ กล่าวถึงประเด็นที่แรงงานกำลังให้ความสนใจอย่างมาก คือการปรับขึ้นค่าจ้างแรงงานเป็น 400 บาททั่วประเทศ ซึ่งจะมีการประชุมของคณะกรรมการไตรภาคีในเดือนพฤษภาคมนี้ การปรับขึ้นในอัตรา 7-10% ตามแต่ละพื้นที่ อาจสร้างความกังวลให้กับนายจ้างบางส่วน ทำให้มีแนวโน้มหันไปใช้เครื่องจักรหรือแรงงานต่างด้าวทดแทน ซึ่งอาจเร่งให้เกิดการว่างงานเพิ่มขึ้นได้ จึงเสนอให้รัฐบาลเตรียมมาตรการช่วยเหลือแรงงานที่อาจได้รับผลกระทบจากการตกงานด้วย

ขณะเดียวกัน กลุ่มแรงงานเองก็มีข้อเรียกร้อง หากไม่สามารถปรับขึ้นค่าจ้างได้ตามที่คาดหวัง หรือไม่ถึง 400 บาท ก็อยากให้พิจารณาปรับเพิ่มค่าจ้างอย่างน้อยให้เท่ากับต้นทุนค่าเดินทางที่สูงขึ้น ตามด้วยค่าสาธารณูปโภคที่เพิ่มสูงขึ้น และภาระดอกเบี้ยเงินกู้ที่ต้องแบกรับ

ในมุมมองของนายจ้าง นายธนวรรธน์ ระบุว่า การปรับขึ้นค่าจ้างเป็น 400 บาท ประกอบกับผลกระทบจากนโยบายของสหรัฐฯ ที่จะเพิ่มภาษีนำเข้า ซึ่งเริ่มแล้วที่ 10% และอาจมีการปรับเพิ่มภาษีตอบโต้การนำเข้าจากไทยอีก 36% จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างหนัก หากไทยโดนเพิ่มภาษี 10% เศรษฐกิจอาจหายไป 0.5-1.0% แต่หากโดนเพิ่มอีก 36% ผลกระทบจะรุนแรงขึ้น ทำให้ GDP ไทยหายไป 1.5-2.0% ซึ่งทุก 1% ของ GDP ที่หายไป จะมีผลทำให้อัตราว่างงานเพิ่มขึ้น 0.1-0.2% เป็นอย่างน้อย ลูกค้าเองก็กังวลเรื่องการเลิกจ้างและราคาสินค้าที่อาจแพงขึ้น ดังนั้น การปรับขึ้นค่าจ้างรายวันควรยึดตามมติของคณะกรรมการไตรภาคี ซึ่งเป็นไปตามที่ทั้งนายจ้างและลูกค้าได้หารือกันไว้

สำหรับการใช้จ่ายในช่วงวันแรงงานปี 2568 นายธนวรรธน์ คาดการณ์ว่า บรรยากาศจะคึกคักกว่าปีก่อน เนื่องจากเชื่อว่าจะมีวันหยุดต่อเนื่องตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 1 พฤษภาคม ถึงวันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม รวม 4 วัน ทำให้เกิดเม็ดเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจประมาณ 2,185 ล้านบาท ขยายตัว 3.2% จากปีก่อนที่ขยายตัวเพียง 2.4%

ศูนย์พยากรณ์ฯ ยังคงมองว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวได้ประมาณ 2% ปัจจัยกดดันหลักมาจากนโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ หรือที่เรียกว่า ‘ทรัมป์ 2.0’ บวกกับภาระหนี้ครัวเรือนที่สูง และต้นทุนการใช้ชีวิตประจำวันที่เพิ่มขึ้น ความชัดเจนจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ คาดว่าจะมีความชัดเจนในช่วงปลายพฤษภาคมถึงมิถุนายนนี้ รวมถึงแนวทางมาตรการช่วยเหลือและพยุงเศรษฐกิจจากภาครัฐ

นายธนวรรธน์ ทิ้งท้ายว่า ในระยะสั้นนี้ ภาครัฐควรเน้นการลดต้นทุน โดยเห็นด้วยกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ควรต่ำกว่า 1% ขณะที่แนวคิดการกู้เงินเพิ่ม 5 แสนล้านบาท ควรเน้นใช้เพื่อการพัฒนาและสร้างงานในระดับท้องถิ่น ออกมาตรการจูงใจภาคอสังหาริมทรัพย์และการท่องเที่ยว ลดต้นทุนให้กับประชาชน และหากมีการช่วยเหลือเป็นเงิน ควรพิจารณาเป็นเงินสดแทนการแจกเงินดิจิทัล สิ่งสำคัญที่สุดคือทำอย่างไรให้ความสามารถในการแข่งขันของไทยคงอยู่และเพิ่มขึ้น ทั้งมาตรการทางการเงินและมาตรการทางการคลัง ล้วนสำคัญในการพยุงเศรษฐกิจไทยให้เติบโตได้ตามเป้าหมาย 2% บนการส่งออกที่คาดว่าจะขยายตัว 2% และเงินเฟ้อที่อยู่ระดับต่ำ 0.5-0.9% ซึ่งถือว่าต่ำกว่ากรอบที่รัฐบาลต้องการเห็นที่เกิน 1% ความไม่ชัดเจนเรื่องภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ยังคงเป็นปัจจัยกดดันอย่างมากต่อภาคธุรกิจและการใช้จ่าย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *