เชียงใหม่เข้ม! เฝ้าระวังผลกระทบจากสารปนเปื้อนในแม่น้ำกก สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเก็บตัวอย่างสัตว์น้ำและพืชผลทางการเกษตรในพื้นที่ริมแม่น้ำไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง หลังพบสารหนูและโลหะหนักเกินมาตรฐานในคุณภาพน้ำและตะกอนดิน เพื่อป้องกันประชาชนนำไปประกอบอาหารและเกิดอันตรายต่อสุขภาพ พร้อมเน้นย้ำเตือนให้งดใช้น้ำจากแม่น้ำกกในช่วงนี้

เชียงใหม่ – วันที่ 29 เมษายน 2568 ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายศิวกร บัวป้อง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เข้าร่วมประชุมหารือกับคณะอนุกรรมาธิการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบมลพิษและสิ่งแวดล้อม ในคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา ผ่านระบบออนไลน์ เพื่อรายงานผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำเสื่อมโทรมและพบสารปนเปื้อนในแม่น้ำกก บริเวณอำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งตรวจพบปัญหานี้มาตั้งแต่ช่วงวันที่ 19 มีนาคม 2568

รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า นับตั้งแต่ตรวจพบปัญหา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งระดับจังหวัดและท้องถิ่นได้ร่วมกันบูรณาการลงพื้นที่ตรวจสอบและเก็บตัวอย่างน้ำมาวิเคราะห์คุณภาพอย่างต่อเนื่อง จากการสุ่มเก็บตัวอย่างน้ำ 3 จุดสำคัญ ได้แก่ บริเวณชายแดนไทย-พม่า, สะพานมิตรภาพแม่นาวาง-ท่าตอน และบริเวณหมู่บ้าน 12 บ้านผาใต้ พบว่า คุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรม และมีค่าโลหะหนักรวมถึงสารพิษเกินมาตรฐานที่กำหนด จึงได้เร่งสั่งการให้มีการสำรวจแหล่งกำเนิดของการปนเปื้อนสารพิษในครั้งนี้อย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำกกในพื้นที่ตำบลท่าตอนและตำบลนาวาง

ขณะเดียวกัน ทางจังหวัดได้มอบหมายให้หน่วยงานในพื้นที่ ร่วมกับ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ดำเนินการเคาะประตูบ้านเพื่อประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชน ผู้ประกอบการ และเกษตรกรที่ทำกิจกรรมต่างๆ ริมแม่น้ำกก เช่น การประมง การเลี้ยงสัตว์ หรือการเกษตร ให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสและงดใช้น้ำจากแม่น้ำกกทั้งในการอุปโภคบริโภคและการเกษตรเป็นการชั่วคราว เพื่อความปลอดภัย

นอกจากนี้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ ยังได้นำรถผลิตน้ำดื่มสะอาดออกให้บริการแก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน เพื่อให้มีน้ำอุปโภคบริโภคเพียงพอตั้งแต่เกิดเหตุการณ์จนถึงปัจจุบัน

นายศิวกร ยังได้กล่าวถึงข้อกังวลเกี่ยวกับการปนเปื้อนสารหนูและโลหะหนักที่จะส่งผลกระทบต่อภาคการประมง การเลี้ยงสัตว์ และการเกษตรในพื้นที่อำเภอแม่อาย โดยระบุว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่าชาวบ้านส่วนใหญ่ในพื้นที่ยังคงใช้น้ำจากแหล่งน้ำบนภูเขาในการทำกิจกรรมเหล่านี้เป็นหลัก จึงได้รับผลกระทบโดยตรงจากปัญหาน้ำในแม่น้ำกกปนเปื้อนไม่มากนัก อย่างไรก็ตาม ผลกระทบที่เกิดขึ้นอาจส่งผลต่อภาคการท่องเที่ยวตลอดเส้นทางลำน้ำมากกว่า เนื่องจากทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความกังวลในเรื่องความปลอดภัย

สำหรับสถานการณ์ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2568 สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 ได้เข้าตรวจสอบคุณภาพตะกอนดินในแม่น้ำกก และยังคงพบว่าตะกอนดินในพื้นที่อำเภอแม่อายยังคงมีค่าสารปนเปื้อนเกินมาตรฐานอยู่

จากสถานการณ์ดังกล่าว นายศิวกร บัวป้อง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้สั่งการเน้นย้ำให้หน่วยงานสำคัญ เช่น สำนักงานประมงจังหวัดเชียงใหม่ และสำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ เร่งดำเนินการเก็บตัวอย่างสัตว์น้ำที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำกก และพืชผลทางการเกษตรที่เพาะปลูกในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อตรวจหาสารพิษจำพวก สารหนู ปรอท ตะกั่ว และแคดเมียม หรือสารพิษอื่นๆ ที่อาจปนเปื้อนอยู่ในสัตว์น้ำและพืชผลเหล่านั้น เพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัยก่อนถึงมือประชาชน และป้องกันไม่ให้ประชาชนนำไปประกอบอาหารบริโภคจนอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ พร้อมกันนี้ ยังได้เน้นย้ำให้หน่วยงานในพื้นที่เดินหน้าประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ชาวบ้านในพื้นที่หลีกเลี่ยงการใช้น้ำจากแม่น้ำกกสำหรับการอุปโภคบริโภคในช่วงนี้อย่างเคร่งครัด จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายและคุณภาพน้ำกลับสู่เกณฑ์ปลอดภัย