อุทาหรณ์วัยรุ่น! หญิงสาวตีลังกา 13 ครั้งรวด จอประสาทตาเสียหายถาวร ดวงตาเสื่อมเหมือนคนอายุ 80

เรื่องราวเตือนใจที่มาจากประสบการณ์จริงของหญิงสาวรายหนึ่งที่เคยเป็นนักกายกรรม เผยการตีลังกาล้อเกวียนติดต่อกันหลายครั้งในวัยรุ่น นำมาซึ่งความเสียหายร้ายแรงต่อดวงตา จนเกิดภาวะจอประสาทตาเสื่อมก่อนวัย ดวงตาใช้งานได้เหมือนคนอายุ 80 ปี ทั้งที่อายุเพียง 42 ปี

เรื่องราวอุทาหรณ์นี้ถูกแชร์โดย เดโบราห์ ค็อบบ์ (Deborah Cobb) เธอเล่าว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเธอยังเป็นวัยรุ่นอายุ 19 ปี ในตอนนั้นเธอเป็นนักกายกรรมที่มีพรสวรรค์ และมักจะใช้ทักษะการตีลังกาล้อเกวียน (Cartwheel) ทุกครั้งที่มีพื้นที่โล่งกว้างให้ได้แสดงความสามารถ

วันหนึ่ง เธอไปเที่ยวพักผ่อนที่หาดเวสต์พอร์ต (Westport beach) กับเพื่อนๆ ด้วยความคึกคะนองและความสนุก เธออดใจไม่ไหวที่จะตีลังกา เธอจำได้ว่าวันนั้นเธอตีลังกาล้อเกวียนติดต่อกันถึง 13 ครั้งรวดทันทีหลังจากหยุดตีลังกา เธอก็เริ่มมีอาการเวียนหัว และสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นกับการมองเห็นของเธอ

เธอเริ่มมองเห็นใบหน้าของเพื่อนๆ เป็นภาพสีส้ม เมื่อพยายามเพ่งมองตรงไปที่เพื่อน ภาพกลับพร่ามัว ไม่ชัดเจน แม้จะลองส่ายหัวเพื่อปรับการมองเห็น แต่อาการก็ไม่หายไป ซึ่งในตอนนั้นเธอไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดที่ดวงตาแต่อย่างใด

ความกังวลเริ่มก่อตัวขึ้นเมื่อเธอพยายามอ่านป้ายราคาสินค้า แต่ภาพที่เห็นยังคงเบลอและเป็นสีส้ม เธอคิดว่าอาจเป็นเพียงอาการชั่วคราวจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ จึงตัดสินใจเข้านอนหวังว่าอาการจะดีขึ้นในตอนเช้า

แต่เมื่อตื่นเช้าขึ้นมา เธอกลับรู้สึกแย่กว่าเดิมมาก พ่อเลี้ยงเห็นท่าไม่ดีจึงรีบพาเธอไปที่ห้องฉุกเฉินในทันที แพทย์วินิจฉัยเบื้องต้นว่า ดวงตาของเธออาจได้รับความเสียหายจากแสงแดด และคาดว่าน่าจะใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์อาการจึงจะหายเป็นปกติ

ทว่า เมื่อเธอได้เข้าพบจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ การวินิจฉัยที่แท้จริงก็ปรากฏขึ้น แพทย์พบว่าหลอดเลือดในจอประสาทตาส่วนกลางซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการมองเห็น ได้เกิดการแตกออก มีเลือดออกในปริมาณน้อยมาก เหมือนจุดหมึกเล็กๆ แต่ก็เพียงพอที่จะบดบังการมองเห็นตรงกลางของเธอไปทั้งหมด

แพทย์แจ้งว่าอาการนี้จะต้องใช้เวลานานกว่าสองสัปดาห์กว่าจะหาย หากเธอโชคดี เธออาจจะกลับมามองเห็นได้ตามปกติอีกครั้งในอีกสามเดือนข้างหน้า ในช่วงเวลานั้น การมองเห็นของเธอเสมือนคนตาบอด เธอไม่สามารถทำกิจกรรมพื้นฐานได้ เช่น การขับรถ การเรียนหนังสือ หรือแม้แต่การดูทีวี ซึ่งทำให้เธอรู้สึกแย่และสิ้นหวังมาก

ช่วงนั้นเธอแทบไม่ได้ออกจากบ้านเลย เพื่อนๆ ต่างเข้ามาช่วยเหลือและให้กำลังใจ เธอพยายามคิดบวกเท่าที่จะทำได้ และหลังจากสามเดือนผ่านไป การมองเห็นของเธอก็เริ่มดีขึ้นอย่างช้าๆ และในที่สุดการมองเห็นตรงกลางก็กลับมาเป็นปกติ เธอบอกว่าเธอไม่เคยรู้สึกโกรธตัวเองกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลย

อย่างไรก็ตาม ประสบการณ์ครั้งนั้นยังคงทิ้งผลกระทบระยะยาวไว้กับเธอ เธอเกิดภาวะจอประสาทตาเสื่อมก่อนวัยอันควร แม้ปัจจุบันเธอจะอายุเพียง 42 ปี แต่จักษุแพทย์ประเมินว่าดวงตาของเธอมีการใช้งานเทียบเท่ากับดวงตาของคนอายุถึง 80 ปี เธอยังคงมีปัญหาในการมองเห็นหลายครั้งจนถึงปัจจุบัน

แพทย์ยังคงเฝ้าติดตามอาการของเธออย่างต่อเนื่อง เพราะมีความเสี่ยงที่ภาวะแทรกซ้อนอาจกลับมาได้อีก ทำให้เธอต้องระมัดระวังเป็นพิเศษในการทำกิจกรรมทางกายภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหลีกเลี่ยงกิจกรรมใดๆ ที่อาจทำให้เลือดไหลเวียนไปที่ศีรษะมากเกินไป

เดโบราห์ ค็อบบ์ กล่าวปิดท้ายว่า กว่า 20 ปีที่ผ่านมา เธอไม่เคยตีลังกาล้อเกวียนอีกเลย แม้บางครั้งจะคิดถึงความรู้สึกสนุกตอนนั้น แต่เธอก็ตระหนักดีว่าบางสิ่งบางอย่างก็ไม่คุ้มที่จะเสี่ยง ไม่ว่าความรู้สึกสุขใจในช่วงเวลาสั้นๆ นั้นจะมากเพียงใดก็ตาม เรื่องราวของเธอจึงเป็นเครื่องเตือนใจที่ดีสำหรับทุกคน โดยเฉพาะวัยรุ่นที่ชอบทำกิจกรรมโลดโผน ว่าควรคำนึงถึงความปลอดภัยและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาว

ที่มา: theguardian

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *