สมุทรสาคร – สุดช็อก! เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันบนถนนพระราม 2 อีกครั้ง เมื่อก้อนปูนขนาดใหญ่ร่วงหล่นใส่รถกระบะของประชาชนที่กำลังสัญจร ทำให้ผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ล่าสุด สส.สมุทรสาคร เผยอาการน่าเป็นห่วง พบ ‘ตับฉีก’ และมี ‘เลือดออกในช่องท้อง’ จำเป็นต้องเร่งย้ายโรงพยาบาลเพื่อทำการผ่าตัดด่วน

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา วันที่ 29 เมษายน 2568 เวลาประมาณ 07.40 น. บริเวณถนนพระราม 2 ฝั่งขาออก ใต้ทางต่างระดับที่มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองสมุทรสาคร โดยรถกระบะคันหนึ่งซึ่งมีผู้ขับขี่มาเพียงลำพัง ได้ถูกก้อนปูนขนาดใหญ่ที่ตกลงมาจากด้านบน พุ่งเข้าใส่บริเวณกระจกหน้ารถอย่างแรง ทำให้ผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บทันที

เบื้องต้นคาดว่า ก้อนปูนดังกล่าวอาจเป็นส่วนหนึ่งจากโครงการก่อสร้างทางยกระดับบนถนนพระราม 2 ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ ทำให้เกิดคำถามถึงมาตรการความปลอดภัยในพื้นที่การก่อสร้างอีกครั้ง

ล่าสุด ความคืบหน้าเกี่ยวกับอาการของผู้ได้รับบาดเจ็บ ได้รับการอัปเดตจาก นายณัฐพงษ์ สุมโนธรรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) เขต 1 จังหวัดสมุทรสาคร พรรคประชาชน ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ “Nattapong Sumanotham – ณัฐพงษ์ สุมโนธรรม”

โดย สส.ณัฐพงษ์ ได้โพสต์ข้อความแจ้งอาการผู้บาดเจ็บว่า ได้รับการยืนยันจากทีมแพทย์แล้วว่า อาการของคนไข้น่าเป็นห่วง โดยพบว่ามี ‘เลือดออกในช่องท้อง’ และ ‘ตับฉีก’ ซึ่งเป็นอาการบาดเจ็บภายในที่ค่อนข้างรุนแรง

ด้วยอาการดังกล่าว แพทย์ได้แจ้งว่า ผู้บาดเจ็บจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดเร่งด่วน แต่เนื่องจากข้อจำกัดด้านความพร้อมของโรงพยาบาลที่ส่งตัวไปในเบื้องต้น จึงต้องทำการย้ายผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลที่มีความพร้อมและมีศักยภาพสูงกว่าในการดูแลรักษาและทำการผ่าตัดเป็นการเฉพาะ

ขณะนี้ สส.ณัฐพงษ์ ได้ประสานงานไปยังท่านสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) สมุทรสาคร เพื่อขอความช่วยเหลือในการประสานงานย้ายผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลที่มีความพร้อมตามคำแนะนำของแพทย์แล้ว

เหตุการณ์นี้ตอกย้ำถึงความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของประชาชนผู้ใช้เส้นทางถนนพระราม 2 ที่มีโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ทับซ้อนอยู่เป็นระยะทางยาว ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะใกล้เคียงกันมาแล้วหลายครั้ง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องเร่งตรวจสอบมาตรการความปลอดภัยในพื้นที่ก่อสร้างอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญและอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเช่นนี้ซ้ำอีก

สำหรับอาการของผู้บาดเจ็บ ทางทีมข่าวยังคงติดตามอย่างใกล้ชิด และหวังว่าผู้บาดเจ็บจะได้รับการดูแลรักษาอย่างเต็มที่และปลอดภัยในเร็ววัน