ศาลฎีกาฯ นัด 30 เม.ย. ชี้ชะตา ‘ทักษิณ’ ปมรักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ ลุ้นถูกส่งกลับเรือนจำ?
กรุงเทพฯ – ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับคดีของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่กำลังอยู่ในความสนใจของสาธารณชนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเด็นการเข้ารับการรักษาตัวนอกเรือนจำ
ล่าสุด ในวันอังคารที่ 30 เมษายน 2568 เวลา 13.00 น. นี้ จะเป็นวันสำคัญที่ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้นัดฟังคำสั่งในประเด็นร้อนที่เกี่ยวข้องกับนายทักษิณ คือกรณีที่ นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคประชาธิปัตย์ ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวน
คำร้องดังกล่าวมีเนื้อหามุ่งเป้าไปที่การดำเนินการของ กรมราชทัณฑ์ ที่ได้อนุญาตให้นายทักษิณ ซึ่งเดิมถูกพิพากษาจำคุก 8 ปี ก่อนจะได้รับการลดโทษเหลือ 1 ปี ออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพื่อไปเข้ารับการรักษาตัวที่บริเวณชั้น 14 ของโรงพยาบาลตำรวจ โดยนายชาญชัยตั้งข้อสังเกตว่า การดำเนินการดังกล่าวอาจไม่ได้รับอนุญาตจากศาล และอาจผิดขั้นตอนของกฎหมายหรือไม่
นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ให้เหตุผลในคำร้องว่า การกระทำของกรมราชทัณฑ์ในกรณีนี้ อาจขัดต่อบทบัญญัติของ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 89 มาตรา 89/2 (1) (2) และมาตรา 246 ซึ่งเป็นกฎหมายหลักที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมตัวผู้ต้องขังและการดำเนินการของศาล
นอกจากนี้ นายชาญชัยยังโต้แย้งว่า ไม่สามารถนำ กฎกระทรวง เรื่องการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ. 2563 ซึ่งออกตามอำนาจมาตรา 55 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 มาอ้างในการดำเนินการครั้งนี้ได้ เนื่องจากเห็นว่ากฎกระทรวงฉบับดังกล่าวอาจมีข้อความที่ขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาในบางประเด็น
ด้วยเหตุผลดังกล่าว นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ จึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาฯ เพื่อขอให้มีคำสั่ง ออกหมายจับและออกหมายขัง นายทักษิณ ชินวัตร กลับมารับโทษที่เหลืออยู่ในเรือนจำ โดยเขามีความเห็นว่า นับตั้งแต่ที่นายทักษิณเดินทางกลับมายังประเทศไทย เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ยังไม่ปรากฏว่านายทักษิณได้ถูกคุมขังอยู่ในพื้นที่ของเรือนจำตามปกติแต่อย่างใด
สำหรับแนวทางของคำสั่งจากศาลฎีกาฯ ที่จะออกมาในวันที่ 30 เมษายนนี้ มีความเป็นไปได้ 2 แนวทางหลัก:
- หากศาลฎีกาฯ ไม่รับคำร้องเอาไว้ไต่สวน: ในกรณีนี้ คำร้องที่นายชาญชัยยื่นเข้ามาจะตกไป และประเด็นนี้จะไม่ถูกนำเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลต่อไป
- หากศาลฎีกาฯ รับคำร้องเอาไว้ไต่สวน: หากศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า คำร้องมีมูลหรือมีประเด็นที่สมควรแก่การไต่สวน ในกรณีนี้จะทำให้สถานการณ์ของนายทักษิณเข้าสู่ภาวะที่ต้องจับตาและลุ้นระทึกอย่างใกล้ชิด เนื่องจากหากผลการไต่สวนเป็นไปตามคำร้องของนายชาญชัย ก็มีความเป็นไปได้ที่นายทักษิณจะต้องถูกส่งตัวกลับเข้ามารับโทษที่เหลืออยู่ในเรือนจำ
ดังนั้น วันที่ 30 เมษายนนี้ จึงถือเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญที่ต้องติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิดสำหรับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับคดีของอดีตนายกรัฐมนตรีผู้นี้