มหาดไทย เตรียมตั้ง ‘กรมกิจการคนเข้าเมือง’ หน่วยงานใหม่ หวังบูรณาการคุมคนเข้า-ออก สะพัดข่าวลือยุบรวม สตม.-แรงงาน

มหาดไทย เตรียมตั้ง ‘กรมกิจการคนเข้าเมือง’ หน่วยงานใหม่ หวังบูรณาการคุมคนเข้า-ออก สะพัดข่าวลือยุบรวม สตม.-แรงงาน

กรุงเทพฯ – วันที่ 29 เมษายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการปรับปรุงโครงสร้างหน่วยงานภาครัฐ โดยมีกระแสข่าวที่น่าจับตาว่า กระทรวงมหาดไทยกำลังเตรียมผลักดันการจัดตั้งหน่วยงานใหม่ในชื่อ “กรมกิจการคนเข้าเมือง” เพื่อทำหน้าที่ดูแลการเข้า-ออกของบุคคลในราชอาณาจักรแบบครบวงจร ซึ่งอาจนำไปสู่การยุบรวมหรือโอนย้ายภารกิจจากหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) และภารกิจบางส่วนจากกระทรวงแรงงาน

รายงานข่าวระบุว่า ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ทำหนังสือถึงประธานกรรมการพิจารณาคนเข้าเมือง ซึ่งมีปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน เพื่อเสนอให้มีการตั้งอนุกรรมการขึ้นมาเพื่อศึกษาและจัดทำคำขอจัดตั้งกรมกิจการคนเข้าเมืองโดยเฉพาะ

เหตุผลและความจำเป็นในการจัดตั้งหน่วยงานใหม่นี้ ได้รับการชี้แจงว่า กระทรวงมหาดไทยมีภารกิจหลักที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง การดูแลประชาชนทั้งคนไทยและคนต่างด้าว รวมถึงสิทธิและสถานะต่างๆ ที่เป็นผลจากการเดินทางเข้า-ออกราชอาณาจักร เช่น การขอมีถิ่นที่อยู่ การขออนุญาตทำงาน การขอสัญชาติ หรือการมีชื่อในทะเบียนราษฎร

กระทรวงมหาดไทยมีความพร้อมด้านฐานข้อมูลประชากรในระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งสามารถนำมาพัฒนาต่อยอดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการการเดินทางเข้า-ออก และใช้ประกอบการพิจารณาให้สิทธิต่างๆ นอกจากนี้ การนำระบบฐานข้อมูลเดิมมาปรับปรุงยังมีความคุ้มค่ามากกว่าการลงทุนวางระบบใหม่ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการฐานข้อมูลประชากรและการบริการภาครัฐ

ย้อนกลับไป คณะรัฐมนตรี (ครม.) เคยมีมติเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2560 เห็นชอบในหลักการให้มีการศึกษาผลกระทบและความจำเป็นในการจัดตั้งกรมกิจการคนเข้าเมือง โดยมอบหมายให้คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ดำเนินการศึกษา ซึ่งต่อมา ก.พ.ร. ได้เสนอผลการศึกษาต่อ ครม. และได้รับความเห็นชอบในหลักการ

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ ก.พ.ร. ศึกษาเพิ่มเติมให้ชัดเจนอีกครั้งในประเด็นการนำภารกิจตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองทั้งหมดมารวมไว้ในหน่วยงานเดียว ควรจะครอบคลุมเฉพาะการผ่านแดนของบุคคล หรือรวมทั้งคนและสินค้าด้วย รวมถึงพิจารณาหน่วยงานที่เหมาะสมมารองรับภารกิจดังกล่าว โดย ก.พ.ร. ได้มีการประชุมร่วมกับกระทรวงมหาดไทย ซึ่งกระทรวงมหาดไทยมีความเห็นและข้อเสนอแนะว่าควรมีการบริหารจัดการชายแดนอย่างมีเอกภาพ โดยรวมกิจการผ่านแดนทั้งคนและสินค้าไว้ในหน่วยงานเดียวกัน

สภาพปัญหาในปัจจุบันที่ทำให้การจัดตั้งกรมกิจการคนเข้าเมืองมีความจำเป็น ได้แก่:

  • การเคลื่อนย้ายประชากรข้ามประเทศมีจำนวนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการจัดตั้งประชาคมอาเซียน นำไปสู่ปัญหาการลักลอบเข้าเมืองและอาชญากรรม
  • ความต้องการบริการภาครัฐที่สะดวกรวดเร็ว สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน จำเป็นต้องมีกลไกที่เน้นการบริหารจัดการมากกว่าการควบคุม
  • การปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน (มหาดไทย, ต่างประเทศ, ตำรวจ, แรงงาน, อัยการสูงสุด, บีโอไอ, สมช., ททท., สตม.) ทำให้ขาดความเป็นเอกภาพ ใช้ระยะเวลานาน และไม่มีผู้รับผิดชอบหลัก
  • การให้บริการประชาชนยังมีความล่าช้า ขาดการนำเทคโนโลยีมาปรับปรุงเพื่อลดขั้นตอนและเพิ่มประสิทธิภาพ

ด้วยเหตุผลดังกล่าว เพื่อให้การบริหารจัดการภารกิจงานด้านคนเข้าเมืองเป็นไปอย่างเอกภาพ มีประสิทธิภาพ และเสริมสร้างความมั่นคงภายในประเทศ กระทรวงมหาดไทยจึงขอให้คณะกรรมการพิจารณาคนเข้าเมืองพิจารณาแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อจัดทำคำขอจัดตั้งกรมกิจการคนเข้าเมือง สังกัดกระทรวงมหาดไทย โดยมีองค์ประกอบเบื้องต้นคือ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย (ด้านกิจการความมั่นคงภายใน) เป็นประธาน

ความเคลื่อนไหวนี้ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มการรวมศูนย์อำนาจและภารกิจด้านคนเข้าเมืองไว้ภายใต้กระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นกระทรวงที่มีบทบาทสำคัญด้านความมั่นคงและทะเบียนราษฎรในระดับพื้นที่ทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม รายละเอียดของการรวมภารกิจและการถ่ายโอนบุคลากรจากหน่วยงานอื่น โดยเฉพาะ สตม. และบางส่วนของกระทรวงแรงงาน ยังต้องรอความชัดเจนจากการศึกษาและขั้นตอนการจัดตั้งหน่วยงานต่อไป

ที่มา: อ้างอิงจากรายงานข่าว

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *