ส.อ.ท. เตรียมหั่นประมาณการผลิตรถยนต์ปีนี้ เหลือ 1.4 ล้านคัน หลังส่งออกเผชิญปัจจัยลบหลายด้าน
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เตรียมปรับลดประมาณการยอดผลิตรถยนต์รวมทั้งปี 2568 ลงเหลือ 1.4 ล้านคัน จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ 1.5 ล้านคัน โดยสาเหตุหลักมาจากความกังวลต่อแนวโน้มการส่งออกที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย ทั้งมาตรการทางการค้าของสหรัฐอเมริกา และการแข่งขันในตลาดโลกที่รุนแรงขึ้น
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ส.อ.ท. กำลังจับตาภาวะเศรษฐกิจโลกที่อาจได้รับผลกระทบจากมาตรการขึ้นกำแพงภาษีของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อยอดผลิตรถยนต์เพื่อส่งออกของไทย โดยคาดว่ายอดส่งออกรถยนต์ในปีนี้อาจลดลงกว่า 100,000 คัน จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ที่ 1 ล้านคัน อาจเหลือเพียง 900,000 คันเท่านั้น
“สถานการณ์เศรษฐกิจโลกยังคงมีความไม่แน่นอน โดยเฉพาะผลกระทบจากประเด็นการขึ้นกำแพงภาษีของสหรัฐฯ ที่ต้องติดตามความชัดเจนอีกครั้ง เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาปรับประมาณการยอดผลิตรถยนต์รวมทั้งปี ในช่วงกลางปีนี้ ซึ่งมีแนวโน้มสูงที่ยอดผลิตรถยนต์เพื่อส่งออกปี 2568 จะทำได้เพียง 900,000 คัน ขณะที่ยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศยังคาดว่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่ 500,000 คัน ทำให้ยอดผลิตรถยนต์รวมทั้งปี 2568 อาจปรับลดลงมาอยู่ที่ 1.4 ล้านคัน จากประมาณการเดิมที่ 1.5 ล้านคัน” นายสุรพงษ์ กล่าว
ข้อมูลการผลิตรถยนต์เดือนมีนาคม 2568 สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มดังกล่าว โดยมียอดผลิตรวม 129,909 คัน ลดลง 6.09% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากการผลิตเพื่อส่งออกที่ลดลงถึง 9.36% เหลือ 83,217 คัน และเมื่อพิจารณาภาพรวมไตรมาสแรกของปีนี้ (มกราคม-มีนาคม 2568) ยอดผลิตเพื่อส่งออกลดลงอย่างมีนัยสำคัญถึง 13.48% อยู่ที่ 236,796 คัน ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ยอดผลิตรถยนต์รวมในไตรมาสแรกปี 2568 ลดลง 14.88% อยู่ที่ 352,499 คัน เนื่องจากสัดส่วนการผลิตเพื่อส่งออกคิดเป็น 67.18% ของยอดผลิตทั้งหมด
สถานการณ์นี้สอดคล้องกับยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปในเดือนมีนาคม 2568 ซึ่งอยู่ที่ 80,914 คัน ลดลง 14.91% จากปีก่อน โดยมีสาเหตุจากการเปลี่ยนรุ่นรถยนต์นั่งบางรุ่น ความเข้มงวดในการลดการปล่อยคาร์บอนของบางประเทศ และการเข้ามาแข่งขันของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ราคาถูกจากประเทศจีนในบางตลาดคู่ค้า ส่งผลให้ยอดส่งออกลดลงในตลาดสำคัญ เช่น ออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง ยุโรป อเมริกากลางและอเมริกาใต้ อย่างไรก็ตาม ยอดส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์และอะไหล่กลับเพิ่มขึ้นในตลาดสหรัฐฯ และญี่ปุ่น
ในส่วนของการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ เดือนมีนาคม 2568 มียอดผลิต 46,692 คัน เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.36% จากปีก่อน และยอดขายรถยนต์ในประเทศอยู่ที่ 55,798 คัน ลดลง 0.54% ซึ่งเป็นผลจากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงินที่ยังคงกังวลต่อภาวะหนี้ครัวเรือนที่สูงและเศรษฐกิจในประเทศที่เติบโตในอัตราต่ำ ประกอบกับค่าครองชีพที่สูง ทำให้ในไตรมาสแรกปี 2568 ยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศอยู่ที่ 115,703 คัน ลดลงถึง 17.62% และยอดขายในประเทศอยู่ที่ 153,193 คัน ลดลง 6.45% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มยอดผลิตรถยนต์ในเดือนเมษายน 2568 คาดว่าจะไม่ติดลบมากนัก แม้จะมีวันหยุดยาว เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากยอดจองรถยนต์ในงานมอเตอร์โชว์ 2568 ที่สูงถึง 77,379 คัน โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่มียอดจองรวมเป็นอันดับหนึ่ง แซงหน้ารถยนต์น้ำมันซึ่งเคยครองอันดับหนึ่งในตลาดรถยนต์ของประเทศไปแล้ว