นครศรีธรรมราช – เหตุการณ์สุดสลด สามีซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ อส. ก่อเหตุทำร้ายภรรยาที่เพิ่งคลอดลูกได้เพียง 1 เดือนจนเสียชีวิต อ้างสาเหตุจากความหึงหวง หลังเข้ามอบตัว ให้การรับสารภาพทุกข้อหา แต่ได้รับสิทธิประกันตัวชั่วคราวในวงเงิน 90,000 บาท ท่ามกลางข้อกังขาของสังคม

เมื่อคืนวันที่ 26 เมษายน 2568 ได้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงในครอบครัวขึ้นภายในร้านอาหารอีสานแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยนายธวัชชัย อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน (อส.) ประจำอำเภอนบพิตำ ได้ทำร้ายร่างกาย น.ส.ฝน อายุ 34 ปี ผู้เป็นภรรยาอย่างรุนแรง

เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ น.ส.ฝน ได้รับบาดเจ็บสาหัส และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราชเพื่อทำการรักษาอย่างเร่งด่วน อย่างไรก็ตาม น.ส.ฝน ทนพิษบาดแผลไม่ไหว และได้เสียชีวิตลงในเวลาต่อมาเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2568

ภายหลังการเสียชีวิตของภรรยา นายธวัชชัย ได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อ พ.ต.อ.สนธิยา ปานแป้น ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรนบพิตำ และได้ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุทำร้ายภรรยาจริง

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายธวัชชัย ให้การว่า ตนอยู่กินกับ น.ส.ฝน มาประมาณ 1 ปี และเพิ่งมีลูกด้วยกันอายุเพียง 1 เดือน หลังจากคลอดลูก น.ส.ฝน ได้เปิดร้านอาหารอีสาน ซึ่งบางครั้งก็พักค้างคืนที่ร้าน ทำให้ตนเกิดความระแวงและมีปากเสียงทะเลาะกันหลายครั้ง

ในคืนเกิดเหตุ นายธวัชชัย ได้เดินทางไปที่ร้านอาหารเพื่อรับ น.ส.ฝน กลับบ้าน แต่ก็เกิดมีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรงอีกครั้ง เมื่อเรียกภรรยาที่อยู่ในห้องนอนที่ร้านก็ไม่ยอมเปิดประตู ทำให้ตนเกิดความโกรธมาก เมื่อภรรยาเปิดประตูออกมา จึงลงมือทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส

นายธวัชชัย ยอมรับว่า สาเหตุที่ทำไปเกิดจากความหึงหวง เนื่องจากภรรยาไม่มีเวลาดูแลลูก ตนต้องอยู่บ้านเลี้ยงลูกเอง และสังเกตเห็นความผิดปกติที่ภรรยาไม่กลับบ้าน บางครั้งออกไปดื่มกินกับลูกค้า สอบถามก็ไม่ยอมรับและทะเลาะกันบ่อยครั้ง คืนเกิดเหตุก็ลงมือแรงไปหน่อย

หลังจากทำร้ายภรรยาแล้ว นายธวัชชัยได้พา น.ส.ฝน กลับบ้าน แต่แม่ของตนสังเกตเห็นว่า น.ส.ฝน มีอาการไม่ปกติ ใบหน้าบวม จึงแนะนำให้รีบนำส่งโรงพยาบาลนบพิตำ ก่อนจะถูกส่งต่อไปยังโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ซึ่ง น.ส.ฝน ก็เสียชีวิตลงในเวลาต่อมา

หลังทราบข่าวการเสียชีวิต นายธวัชชัย ก็เข้ามอบตัวและยอมรับผิดทุกอย่างในสิ่งที่ทำลงไป

ทั้งนี้ ในชั้นสอบสวน พนักงานสอบสวนได้อนุญาตให้ประกันตัวนายธวัชชัย ไปในวงเงิน 90,000 บาท โดยให้เหตุผลว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่น่าจะมีพฤติการณ์หลบหนี

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า แม้จะได้รับการประกันตัวแล้ว นายธวัชชัย ยังคงให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับกระบวนการรับส่งศพของ น.ส.ฝน ด้วย

ล่าสุด เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2568 ญาติของ น.ส.ฝน ได้เดินทางมารับศพจากโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เพื่อนำกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่บ้านเกิดในจังหวัดอำนาจเจริญต่อไป.