กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนฉบับล่าสุด เรื่อง พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 28 เมษายน – 1 พฤษภาคม 2568) เตือนประชาชนในพื้นที่ 58 จังหวัดทั่วประเทศ ให้เตรียมรับมือกับพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และฝนตกหนักบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะในวันพรุ่งนี้ (28 เมษายน 2568)

ประกาศดังกล่าวระบุว่า เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศเวียดนามและทะเลจีนใต้ ประกอบกับมีแนวพัดสอบของลมตะวันออกเฉียงใต้และลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดบางพื้นที่

สถานการณ์นี้ร่วมกับคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจากประเทศเมียนมาที่เคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนในช่วงวันที่ 28 เมษายน ถึง 1 พฤษภาคม 2568 จะเป็นปัจจัยให้เกิดพายุฤดูร้อนขึ้น โดยมีลักษณะเด่นคือ พายุฝนฟ้าคะนองรุนแรง พร้อมด้วยลมกระโชกแรง ลูกเห็บตกหนัก และมีโอกาสเกิดฟ้าผ่าในหลายพื้นที่

จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบในวันที่ 28 เมษายน 2568 มีดังนี้:

• ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย กำแพงเพชร ตาก พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์
• ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
• ภาคกลาง: นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี และกาญจนบุรี

นอกจากนี้ กรมอุตุนิยมวิทยายังได้พยากรณ์ฝนสำหรับวันที่ 29 เมษายน และ 30 เมษายน – 1 พฤษภาคม 2568 โดยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจะมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แต่ยังคงครอบคลุมหลายจังหวัดในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง

คำแนะนำสำหรับประชาชน:

ขอให้ประชาชนในพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อน ระมัดระวังอันตรายที่อาจเกิดขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมถึงระมัดระวังอันตรายจากฟ้าผ่า

สำหรับเกษตรกร ควรเสริมความแข็งแรงให้กับไม้ผล และเตรียมการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง

นอกจากนี้ ยังขอให้ประชาชนระมัดระวังการเดินทางผ่านบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนองและเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ เนื่องจากการระบายน้ำอาจทำได้ไม่สะดวก

สถานการณ์ภาคใต้:

สำหรับภาคใต้ ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง เนื่องจากลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน สภาพคลื่นลมในอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร แต่บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือบริเวณดังกล่าวควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

สถานการณ์ฝุ่นละออง:

การสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังอยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงค่อนข้างมาก แต่มีแนวโน้มทรงตัวหรือลดลง เนื่องจากมีโอกาสเกิดฝนตกในบางพื้นที่ ซึ่งจะช่วยบรรเทาสถานการณ์ได้

ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และสามารถตรวจสอบข้อมูลล่าสุดได้ที่เว็บไซต์ http://www.tmd.go.th หรือสายด่วน 0-2399-4012-13 และ 1182 ตลอด 24 ชั่วโมง