พศ. เร่งสอบคลิปฉาวสามเณร-พระหนุ่ม! วัดดังชี้แจง สามเณรแค่มาดูแลพระอาพาธ ส่วนพระหนุ่มยืนยันความบริสุทธิ์
กรุงเทพมหานคร, 28 เมษายน 2568 – สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กำลังเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเข้มข้น กรณีปรากฏคลิปวิดีโอและภาพนิ่งบนสื่อสังคมออนไลน์ ที่แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมและอาจเข้าข่ายการประพฤติผิดพระวินัยของสามเณรและพระภิกษุรูปหนึ่ง ซึ่งได้กลายเป็นข่าวอื้อฉาวและสร้างความไม่สบายใจ รวมถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในหมู่พุทธศาสนิกชนและสังคมไทย
นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้แสดงความห่วงใยต่อกรณีดังกล่าว และได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กลุ่มคุ้มครองพระพุทธศาสนา ภายใต้การดูแลของสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงที่วัดจักรวรรดิราชาวาส ซึ่งเป็นวัดที่ถูกระบุว่าเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้
ในการลงพื้นที่ เจ้าหน้าที่ พศ. ได้เข้าพบผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดจักรวรรดิราชาวาส เพื่อขอข้อมูลและชี้แจงถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยผู้ช่วยเจ้าอาวาสได้ให้การยืนยันและชี้แจงถึงข้อเท็จจริงบางประการเกี่ยวกับบุคคลที่ปรากฏในคลิปฉาวดังกล่าว
ผู้ช่วยเจ้าอาวาสได้ยืนยันว่า สามเณรที่ปรากฏในคลิป ไม่ใช่สามเณรที่สังกัดวัดจักรวรรดิราชาวาสเป็นการถาวร แต่เป็นสามเณรที่เดินทางมาจากวัดในต่างจังหวัด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯ เพื่ออุปัฏฐากดูแลพระเถระรูปหนึ่งซึ่งกำลังอาพาธและเข้ารับการรักษาพยาบาล โดยสามเณรรูปดังกล่าวได้ขอเข้ามาพักอาศัยชั่วคราวที่วัดจักรวรรดิราชาวาสในช่วงที่ต้องดูแลพระเถระ กระทั่งเมื่อพระเถระรูปดังกล่าวหายจากอาการอาพาธและเดินทางกลับวัดเดิมแล้ว สามเณรรูปนั้นก็เดินทางกลับวัดต้นสังกัดของตนเองที่ต่างจังหวัดเช่นกัน
สำหรับพระภิกษุหนุ่มอีกรูปที่ปรากฏในคลิปอื้อฉาวนั้น ผู้ช่วยเจ้าอาวาสได้ชี้แจงว่าเป็นพระที่สังกัดวัดจักรวรรดิราชาวาสจริง และได้มีการเรียกพระภิกษุรูปดังกล่าวมาสอบถามข้อเท็จจริงเบื้องต้น ซึ่งจากการสอบถาม พระภิกษุรูปนี้ได้ให้การปฏิเสธในบางส่วน (ภาคเสธ) และยืนยันในความบริสุทธิ์ของตนเอง พร้อมทั้งได้ไปดำเนินการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่สถานีตำรวจในท้องที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการชี้แจงจากทางวัด สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติยืนยันว่าจะไม่หยุดเพียงเท่านี้ แต่จะดำเนินการสืบสวนและตรวจสอบคลิปดังกล่าวอย่างละเอียดต่อไป เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงและติดตามหาบุคคลอื่นๆ ที่อาจเกี่ยวข้องหรือปรากฏอยู่ในคลิปให้ได้ครบถ้วน
นายอินทพร จั่นเอี่ยม กล่าวเน้นย้ำว่า เหตุการณ์ในคลิปนี้ได้สร้างความเสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ของคณะสงฆ์และพระพุทธศาสนาโดยรวมอย่างร้ายแรง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทาง พศ. ไม่สามารถละเลยได้ และจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด เพื่อรักษาไว้ซึ่งความบริสุทธิ์และความศรัทธาของพุทธศาสนิกชน