ไทยกูลิโกะ ฉลอง 55 ปี เปิดเบื้องหลังโรงงาน ‘ป๊อกกี้’ พร้อมเผยกลยุทธ์ ‘5 New’ สู้ศึกตลาดบิสกิตหมื่นล้าน

กรุงเทพฯ – บริษัท ไทยกูลิโกะ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายขนมภายใต้แบรนด์ ‘ป๊อกกี้’ ‘เพรทซ์’ และอื่นๆ ที่คนไทยคุ้นเคย จัดงานฉลองครบรอบ 55 ปี ในวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา พร้อมเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนเข้าเยี่ยมชมโรงงานผลิตที่สวนอุตสาหกรรมบางกะดี จังหวัดปทุมธานี เป็นครั้งแรก เพื่อเผยเบื้องหลังความสำเร็จและกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ

นายเฉลิมพงษ์ ดรงค์สุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยกูลิโกะ จำกัด กล่าวถึงประวัติความเป็นมาของบริษัทแม่ ‘เอซากิ กูลิโกะ’ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นบริษัทอาหารระดับโลกที่มีอายุถึง 103 ปี ก่อตั้งโดย ริอิจิ เอซากิ โดยยึดมั่นในปณิธานที่จะผลิตขนมที่ดีต่อสุขภาพและเป็นมิตรกับคนทุกวัย ปัจจุบัน เอซากิ กูลิโกะ ดำเนินธุรกิจทั่วโลก มีสินค้าหลากหลายประเภท และมีผลิตภัณฑ์เรือธงคือ ‘บิสโก้’ และ ‘ป๊อกกี้’ ซึ่งเปิดตัวในปี 2509 และได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง

ไทยกูลิโกะ ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 55 ปีก่อน ถือเป็นหนึ่งในประเทศแรกๆ ที่ เอซากิ กูลิโกะ เข้ามาลงทุนนอกประเทศญี่ปุ่น และปัจจุบันไทยเป็นฐานธุรกิจที่สำคัญระดับโลก โดยเป็น 1 ใน 3 ประเทศที่มีศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D Center) รวมถึงเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกที่สำคัญจากโรงงาน 2 แห่งที่รังสิตและบางกะดี

สำหรับโรงงานผลิตบางกะดีที่เปิดให้เยี่ยมชมในครั้งนี้ เป็นฐานการผลิตบิสกิตหลัก เช่น ป๊อกกี้ เพรทซ์ พีจอย แอลฟี่ และโคลอน มี 16 ไลน์ผลิต พนักงานกว่า 500 คน ดำเนินงานตามมาตรฐานสากลและแบบแผนญี่ปุ่น โรงงานแห่งนี้เคยประสบอุทกภัยครั้งใหญ่ในปี 2554 แต่สามารถฟื้นตัวและกลับมาดำเนินงานเต็มรูปแบบได้ ปัจจุบันได้ติดตั้งโซลาร์เซลล์ขนาด 2.8 เมกะวัตต์พีก (MWp) เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง 50% ภายในปี 2030

เบื้องหลังการผลิตเต็มไปด้วยขั้นตอนที่พิถีพิถัน ตั้งแต่การเตรียมแป้งโด การผสมวัตถุดิบ การขึ้นรูปเส้น การอบ ไปจนถึงการแพ็กสินค้า แม้จะใช้เครื่องจักรที่ทันสมัย แต่ยังต้องอาศัยทักษะและความชำนาญของพนักงานในการควบคุมดูแลทุกกระบวนการ เพื่อให้ได้ขนมคุณภาพดีและลดการสูญเสีย

ในโอกาสครบรอบ 55 ปี ไทยกูลิโกะ เตรียมรุกตลาดด้วยกลยุทธ์ ‘5 New’ ประกอบด้วย:

  1. New R&D: วิจัยและพัฒนาสินค้าใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการ พฤติกรรม และสุขภาพของผู้บริโภคแต่ละวัย ภายใต้ปณิธาน “อร่อย และสุขภาพดี”
  2. New Innovation: สร้างนวัตกรรมทั้งสินค้าและการตลาด เตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ 8-10 รายการในปีนี้ เช่น กูลิโกะ โรส (ลิมิเต็ด), เพรทซ์ รสเขียวหวานไก่ และต้มข่าไก่ พร้อมกิจกรรมการตลาดและสินค้าลิมิเต็ดช่วงปลายปี
  3. New Market: ขยายฐานลูกค้าไปยังตลาดใหม่
  4. New ESG Drive: ขับเคลื่อนธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล
  5. New Partnerships & Collaboration: สร้างพันธมิตรใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศเพื่อนำเสนอประสบการณ์ใหม่ให้ผู้บริโภค

นายเฉลิมพงษ์ กล่าวเสริมว่า ไทยกูลิโกะไม่ได้มองแค่ฐานลูกค้าเดิม แต่จะขยายไปยังกลุ่ม Gen Alpha และ Gen Z ขณะที่ยังคงรักษาฐานลูกค้ากลุ่มครอบครัวเดิมอย่าง Gen Y, Gen X และผู้สูงวัย ตั้งเป้ายอดขาย 91,000 ล้านเยน คิดเป็นการเติบโต 10% จากปีก่อน เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจในตลาดบิสกิตมูลค่ากว่า 17,471 ล้านบาท

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *