จับซ้ำ! พ่อค้าผลไม้ไซเบอร์ ลอบขาย ‘สื่อลามกเด็ก’ หลังพ้นคุกไม่นาน อ้างหาเงินค่าทนายสู้คดีเก่า

นนทบุรี – ตำรวจไซเบอร์ปฏิบัติการรวบตัวพ่อค้าขายผลไม้รายหนึ่งในจังหวัดชลบุรีอีกครั้ง หลังพบพฤติกรรมลอบเปิดกลุ่มลับบนโลกออนไลน์ ขายสื่อลามกอนาจาร โดยเฉพาะสื่อลามกเด็ก อ้างหาเงินเป็นค่าจ้างทนายความเพื่อสู้คดีเก่าที่เพิ่งถูกจับไปเมื่อช่วงต้นปี

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 28 เมษายน 2568 ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการ บช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รองผู้บัญชาการ บช.สอท., พล.ต.ต.ศิลา กาญจนลักษณ์ ผู้บังคับการ กองบังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบก.ตอท.) และ พ.ต.อ.ธีรนนท์ แมนมงคล ผู้กำกับการกลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. (TICAC) ได้ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญในคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

พล.ต.ท.ไตรรงค์ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากตำรวจชุดสืบสวน กก.กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. (TICAC) ได้รับแจ้งเบาะแสจากสายลับว่า พบการโฆษณาชักชวนเข้ากลุ่มลับผ่านแอปพลิเคชัน X (ทวิตเตอร์) โดยผู้ใช้งานชื่อบัญชี “น้องไข่มุก(กลุ่มลับ)” และบัญชี “ไข่หวาน(กลุ่มลับ)” ได้โพสต์ข้อความลักษณะเชิญชวน เช่น “สนใจกลุ่มลับ 20+ มีหลายแนวให้เลือก สนใจแอดไลน์(id line) โปรด่วนจ้าลด 50% ทุกกลุ่ม” พร้อมทั้งนำภาพและคลิปวิดีโอสื่อลามกอนาจารมาลงเป็นตัวอย่าง เพื่อจูงใจให้ผู้คนสมัครเข้ากลุ่มลับในแอปพลิเคชัน Line โดยคิดค่าเข้าเป็นสมาชิกเพื่อแลกกับการเข้าชมภาพและวิดีโอสื่อลามกต่างๆ

จากการสืบสวนขยายผล ตำรวจพบว่า นายธรรมศร (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ชาวจังหวัดชลบุรี ซึ่งมีอาชีพขายผลไม้ในพื้นที่ เป็นผู้ที่ทำหน้าที่แอดมินกลุ่มลับเหล่านี้ และเป็นผู้รับผลประโยชน์จากค่าสมาชิกที่ผู้คนสมัครเข้ามา โดยเมื่อตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของนายธรรมศร พบว่าเขาเคยถูกกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (กก.2 บก.ปคม.บช.ก.) จับกุมไปเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา ในข้อหา “เพื่อประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก”

แม้จะเคยถูกจับกุมไปแล้ว แต่นายธรรมศรก็ยังคงกลับมากระทำความผิดซ้ำอีก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดชลบุรี ที่ ค.77/2568 ลงวันที่ 25 เมษายน 2568 เพื่อเข้าทำการตรวจค้นและจับกุมนายธรรมศร ที่บ้านพักในพื้นที่ อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี พร้อมทั้งยึดของกลางเป็นโทรศัพท์มือถือและสมุดบัญชีธนาคาร

จากการตรวจสอบข้อมูลภายในโทรศัพท์มือถือของนายธรรมศร พบว่าเขาสร้างกลุ่มลับในแอปพลิเคชัน Line ไว้ถึง 6 กลุ่ม เพื่อประกาศและรับสมาชิกเข้าชมสื่อลามกอนาจาร โดยมีการจัดหาและนำสื่อลามกเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยตนเอง พร้อมเรียกเก็บค่าสมาชิกในราคาที่แตกต่างกันไปตามประเภทของเนื้อหา ดังนี้

  • VIP1 แนวครอบครัว (เน้นสาวใหญ่ สาวแก่) ค่าเข้า 300 บาท
  • VIP2 แนวครอบครัว (เน้นงานเด็กล้วน) ค่าเข้า 300 บาท
  • VIP3 งานหลุดทางบ้าน นักเรียนและนักศึกษา ค่าเข้า 200 บาท
  • VIP4 แนวสาวสอง รุกรับมีหมด ค่าเข้า 100 บาท
  • VIP5 แนวคนกับสัตว์ ค่าเข้า 100 บาท
  • VIP6 แนว drak แอบถ่าย ข่มขืน ค่าเข้า 100 บาท

เมื่อตรวจสอบในโน๊ตของกลุ่มลับเหล่านี้ เจ้าหน้าที่ถึงกับผงะ เมื่อพบสื่อลามกอนาจารเด็ก ทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ถูกบันทึกไว้เป็นจำนวนมากกว่า 1,000 ไฟล์ ซึ่งถือเป็นความผิดร้ายแรง

พล.ต.ต.ไตรรงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการสอบสวน นายธรรมศรให้การยอมรับว่าเพิ่งเริ่มทำมาได้ประมาณ 2 เดือน หลังจากการถูกจับกุมครั้งแรกเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยมีรายได้จากการขายสื่อลามกนี้เฉลี่ยเดือนละประมาณ 10,000 บาท ซึ่งเขาอ้างว่าทำเพื่อหาเงินมาใช้เป็นค่าจ้างทนายความเพื่อสู้คดีเดิมที่ตนเองถูกจับไปก่อนหน้านี้

เบื้องต้น ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหานายธรรมศรหลายข้อหา อาทิ “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้น ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้”, “เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะอันลามก”, “ผู้ใดครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น”, “เพื่อประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก”, และ “เพื่อจะช่วยทำให้แพร่หลาย หรือการค้าสื่อลามกอนาจารเด็กแล้ว โฆษณาหรือไขข่าวโดยประการใดๆ ว่ามีบุคคลกระทำการอันเป็นความผิดตามมาตรานี้ หรือโฆษณาหรือไขข่าวว่าเป็นสื่อลามกอนาจารเด็ก”

ภายหลังการสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายธรรมศรส่งให้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบ้านบึง จังหวัดชลบุรี เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *