เดือด! ‘บิ๊กเน’ ปลุกใจนักเตะบุรีรัมย์ หลังพ่าย อัล อาห์ลี ลั่นต้องคว้าแชมป์ไทยลีกเพื่อกลับสู่ ACL Elite พร้อมชี้แจงเหตุส่ง ศิวรักษ์ ลงสนาม

ความเคลื่อนไหวล่าสุดจากสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หลังเกมที่ทัพ ‘ปราสาทสายฟ้า’ พ่ายแพ้ให้กับ อัล อาห์ลี ทีมแกร่งจากซาอุดีอาระเบีย ไปด้วยสกอร์ 0-3 ในศึกเอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก อีลิต 2024/25 รอบ 8 ทีมสุดท้าย ทำให้ต้องยุติเส้นทางในถ้วยเอเชียฤดูกาลนี้

หลังจบเกมดังกล่าว มีคลิปวิดีโอชื่อว่า “THE WRAP UP” เผยแพร่บรรยากาศภายในห้องแต่งตัวของทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โดยมีช่วงหนึ่งที่ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร ได้กล่าวปราศรัยกับลูกทีม เพื่อเป็นการปลุกขวัญกำลังใจให้เดินหน้าต่อ หลังความผิดหวังจากการตกรอบ ACL Elite

ใจความสำคัญของคำพูด ‘บิ๊กเน’ คือการเน้นย้ำเป้าหมายที่ยังเหลืออยู่ โดยเฉพาะการคว้าแชมป์ฟุตบอลไทยลีก เพื่อสิทธิ์ในการกลับไปแข่งขันในรายการ ACL Elite อีกครั้งในฤดูกาลหน้า

“เราต้องไม่ทำให้การตัดสินใจในการที่ส่งผู้เล่นวันนี้ ต้องเสียไป” นายเนวิน กล่าวกับลูกทีมในห้องแต่งตัว “วันที่ 30 เราต้องเอาแชมป์อย่างเดียว เพื่อเราจะกลับมาเล่นที่นี่ในปีหน้า เราจะแข็งแรงกว่า เราจะไปให้ไกลกว่านี้”

นอกจากนี้ นายเนวิน ยังได้ชี้แจงเหตุผลเบื้องหลังการตัดสินใจส่ง ‘แชมป์’ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ผู้รักษาประตูจอมเก๋า ลงสนามในช่วงท้ายเกมดังกล่าว ซึ่งเป็นประเด็นที่อาจทำให้หลายคนสงสัย

“หลายคนต่อสู้มา หวังจะเล่นเกมนี้แต่ไม่ได้เล่น ผมก็ต้องบอกว่าเป็นการตัดสินใจเพื่อสโมสร ผลงานของสโมสรและแฟนบอล ด้วยการเอาตำแหน่งแชมป์ไทยลีกกลับมาให้แฟนบอลและสโมสรให้ได้วันที่ 30”

“หวังว่าทุกคนจะเข้าใจว่าการเปลี่ยนผู้เล่นคนสุดท้าย ตัดสินใจเอาแชมป์ (ศิวรักษ์) หลายคนอาจจะมีคำถามในใจว่าทำไมไม่เอาตัวเองลงไป ก็ต้องบอกว่าแชมป์อยู่กับสโมสรมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งสโมสร และแชมป์ก็มีส่วนทำให้บุรีรัมย์ ได้แชมป์ทุกแชมป์ที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นการตัดสินใจวันนี้ เพราะต้องการให้แชมป์มีชื่ออยู่ในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลเอเชีย เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก อีลิตปีนี้เป็นปีแรก”

นายเนวิน กล่าวต่อว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการตอบแทนความทุ่มเทของศิวรักษ์ ที่อยู่กับสโมสรมาอย่างยาวนานถึง 15-16 ปี และยังเป็นผู้เล่นที่มีอายุมากที่สุดในทัวร์นาเมนต์นี้ การได้ลงสนามจึงเป็นการบันทึกชื่อของเขาไว้ในประวัติศาสตร์ของรายการ ACL Elite ในปีแรกอย่างเป็นทางการ

“และแชมป์เป็นผู้เล่นที่อายุมากที่สุดในทัวร์นาเมนต์ เพราะฉะนั้นการมีชื่อเป็นผู้เล่นแต่ไม่ได้เล่นมันไม่สามารถบันทึกในประวัติศาสตร์ได้ เพราะฉะนั้นสำหรับผมนี่คือการตอบแทนสิ่งที่แชมป์ได้ทำให้กับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เพราะอย่างน้อยที่สุดสำหรับการที่ทำให้ผู้เล่นคนหนึ่งอยู่กับสโมสรมา 15-16 ปี แล้วก็อยากจะให้มีชื่อในประวัติศาสตร์ ของแชมเปี้ยส์ลีก อีลิต ในปีแรกว่าเป็นผู้เล่นที่อายุมากที่สุดในการแข่งขัน เพราะฉะนั้นขอให้ทุกคนได้เข้าใจว่านี่คือสิ่งที่สามารถให้แชมป์ได้ และทีมทำให้แชมป์ได้”

ประธานสโมสรยอมรับว่าแฟนบอลบางส่วนอาจไม่เข้าใจการตัดสินใจนี้ แต่ยืนยันว่าเป็นการให้เกียรติผู้เล่นที่ทุ่มเทให้กับสโมสรมาโดยตลอด

“แน่นอนหลายคนอาจไม่เข้าใจ แฟนบอลอาจจะไม่เข้าใจ แต่สำหรับผม สำหรับผู้เล่นหนึ่งคน ที่ทุ่มเทให้เพื่อสโมสรมาตั้งแต่วันแรกจนวันนี้เขาต้องได้รับอะไรตอบแทน เพื่อเป็นเกียรติยศของตัวเขา และวงศ์ตระกูลของเขาขอให้ทุกคนเข้าใจ”

ปิดท้ายด้วยการเน้นย้ำถึงเป้าหมายในเกมสุดท้ายของฤดูกาล

“เราจะเดินทางกลับบุรีรัมย์ เพื่อไปเอาแชมป์ในวันที่ 30 และอีก 3 แชมป์ เอฟเอ คัพ ลีก คัพ และ ช็อปปี้ คัพให้ได้ ขอบใจทุกคน”

สำหรับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีโปรแกรมลงสนามในนัดสุดท้ายของไทยลีกฤดูกาลนี้ วันที่ 30 เมษายนนี้ โดยจะเปิดบ้านพบกับ หนองบัว พิชญ เพื่อลุ้นคว้าแชมป์กับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่จะลงสนามพบกับ พีที ประจวบ เอฟซี ในวันเดียวกัน ซึ่งผลการแข่งขันนัดนี้จะเป็นตัวชี้ชะตาแชมป์ไทยลีก 2024/25

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *