นราธิวาส – อดีตผู้กำกับการ สภ.โคกเคียน จังหวัดนราธิวาส สร้างความฮือฮาในวงการสีกากี ด้วยการเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บังคับบัญชาระดับสูง คือ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ในข้อหาร่วมกันบุกรุกเคหสถานและทำให้เสียทรัพย์ โดยอ้างว่าถูกทำลายประตูบ้านพัก หลังจากถูกสั่งย้ายไปช่วยราชการจากเหตุการณ์คนร้ายวางระเบิดแฟลตตำรวจ

เหตุการณ์ดังกล่าวถูกเปิดเผยเมื่อ พ.ต.อ.วีรยุทธ ตาสีพันธุ์ อดีตผู้กำกับการ สภ.โคกเคียน จังหวัดนราธิวาส ซึ่งปัจจุบันถูกคำสั่งให้ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ได้เข้าพบ ร.ต.อ.สุนันต์ สมภักษร รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.โคกเคียน เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และ พล.ต.ต.ไมตรี สันตยากุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส

ตามรายงานการแจ้งความ พ.ต.อ.วีรยุทธ ระบุว่า เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2568 เวลาประมาณ 21.31 น. ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจรายหนึ่ง (ขอสงวนนาม) ว่า เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. ของวันเดียวกัน พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี และ พล.ต.ต.ไมตรี สันตยากุล พร้อมพวก ได้ร่วมกันทำลายประตูบ้านพักของตนเอง ซึ่งเป็นบ้านพักตำรวจเลขที่ 272/41 หมู่ 10 ตำบลโคกเคียน อำเภอเมืองนราธิวาส จนได้รับความเสียหาย

พ.ต.อ.วีรยุทธ แจ้งว่า ขณะนี้ยังไม่ได้เข้าตรวจสอบทรัพย์สินภายในบ้านพักว่ามีสิ่งใดสูญหายหรือถูกทำลายเพิ่มเติมหรือไม่ จึงขอแจ้งความร้องทุกข์ไว้ก่อนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป โดยพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องไว้เป็นคดีอาญาที่ 68/2568 เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2568 เวลาประมาณ 16.23 น. ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนเพื่อหาสาเหตุและมูลเหตุจูงใจในการกระทำดังกล่าว

การแจ้งความครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลัง พ.ต.อ.วีรยุทธ ตาสีพันธุ์ ได้รับคำสั่งย้ายจาก พล.ต.ต.ไมตรี สันตยากุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ให้ไปช่วยราชการที่ ศปก.ภ.จ.นราธิวาส โดยขาดจากตำแหน่งเดิม ตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน 2568 เป็นต้นไป คำสั่งย้ายดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเกิดเหตุคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ประกอบระเบิดแสวงเครื่องโจมตีบริเวณด้านหลังแฟลตตำรวจ สภ.โคกเคียน เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2568

เหตุระเบิดที่แฟลตตำรวจ สภ.โคกเคียน ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนซึ่งรวมถึงเด็ก ได้รับบาดเจ็บรวมทั้งสิ้น 10 ราย อาคารแฟลต 4 ชั้นได้รับความเสียหายอย่างหนัก รวมถึงรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ใต้ถุนอาคารอีก 17 คัน ได้รับความเสียหายเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ มีรายงานข่าวและกระแสสังคมที่ตั้งคำถามถึงคำสั่งย้าย พ.ต.อ.วีรยุทธ โดยมีชาวบ้านและผู้ใต้บังคับบัญชาบางส่วนออกมาให้กำลังใจ พร้อมยืนยันว่า พ.ต.อ.วีรยุทธ เป็นผู้ที่ทำงานดีและดูแลพื้นที่อย่างเต็มที่ ขณะที่ทางผู้บังคับบัญชาได้ชี้แจงว่า คำสั่งย้ายไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้ง แต่เป็นการพิจารณาจากความละเลยในการปฏิบัติหน้าที่ที่ทำให้เกิดความเสียหายจากเหตุการณ์ระเบิดดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ประเด็นเรื่องการบุกรุกบ้านพักของอดีตผู้กำกับกำลังเป็นที่จับตาของสังคมต่อไป