ไทยเลื่อนยกเลิกกฎอัยการศึกชายแดนใต้ หลังเหตุโจมตีรุนแรง คร่า 3 ชีวิต

กรุงเทพฯ – นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยืนยันเมื่อวันจันทร์ (29 เม.ย.) ว่า ประเทศไทยได้เลื่อนแผนการยกเลิกกฎอัยการศึกในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังเกิดเหตุโจมตีรุนแรง 2 เหตุการณ์ในพื้นที่ จ.ยะลา เป็นเหตุให้มีเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 2 นาย และ อส. เสียชีวิต 1 นาย

นายภูมิธรรม กล่าวว่า “เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นล่าสุด ทำให้เราต้องทบทวนข้อเสนอ” พร้อมเสริมว่า การหารือที่กำหนดไว้เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ถูกเลื่อนออกไปเพื่อให้เจ้าหน้าที่ความมั่นคงจัดการกับสถานการณ์เฉพาะหน้าก่อน “แม้ภาคเอกชนจะเชื่อว่าสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ และการยกเลิกกฎอัยการศึกจะช่วยส่งเสริมบรรยากาศทางธุรกิจ แต่เหตุการณ์เหล่านี้จำเป็นต้องได้รับการประเมินใหม่”

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ได้หารือปัญหาดังกล่าวกับผู้บัญชาการกองทัพภาคที่ 4, ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหา

เหตุโจมตี 2 ครั้งในยะลา เสียชีวิต 3 ราย

เหตุโจมตีทั้ง 2 ครั้งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 เมษายน ที่ จ.ยะลา เริ่มจากเหตุยิงอาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) ในพื้นที่ อ.บันนังสตา หลังเที่ยงคืน ตามมาด้วยเหตุการณ์ที่กลุ่มผู้ต้องสงสัยว่าเป็นสมาชิกกลุ่ม BRN ลอบวางระเบิดโจมตีชุดลาดตระเวนของตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ทำให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 2 นาย และบาดเจ็บสาหัส 1 นาย

เวลา 09:45 น. เหตุการณ์ลอบวางระเบิดเป้าหมายเป็นรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ ตชด. ที่ฐานปฏิบัติการศรีท่าน้ำ อ.ธารโต เป็นเหตุให้ ด.ต. อิสเรศ อินทรเพชร และ ส.ต.ต. มนพิทักษ์ เพชรนุ้ย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ขณะที่ ด.ต. ภาณุวัฒน์ เวชประสาน ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่ทั้ง 3 นายกำลังเดินทางกลับจากการปฏิบัติภารกิจที่ กองร้อย ตชด.44

ก่อนหน้านี้ในพื้นที่ อ.บันนังสตา เจ้าหน้าที่ความมั่นคง ทั้งตำรวจ ทหาร และ อส. ได้เข้าปิดกั้นพื้นที่บริเวณหน้ามินิมาร์ทแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 1 บ้านตาเนาะติงติง ต.ตลิ่งชัน หลังจากกลุ่มติดอาวุธได้ยิง นายเธราวุธ พุทธรัตน์ อายุ 34 ปี อส. ในพื้นที่ เสียชีวิต ขณะที่เขากำลังลงจากรถเพื่อเข้าซื้อของที่มินิมาร์ท ซึ่งอยู่ห่างจากฐานปฏิบัติการประมาณ 300 เมตร เหตุเกิดเมื่อเวลา 00:40 น. โดยกลุ่มผู้ก่อเหตุได้จุดไฟเผารถยนต์ของนายเธราวุธทันทีหลังก่อเหตุ

ต้องการพูดคุยกับแกนนำ BRN ตัวจริง

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า รัฐบาลได้สั่งการให้ผู้บัญชาการทหารบก ดำเนินมาตรการเชิงรุกด้านความมั่นคงมากขึ้น โดยทุกหน่วยงานจะต้องส่งแผนปฏิบัติการโดยละเอียดภายใน 7 วัน ท่านยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้งหรือปัญหาในการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างทหารและตำรวจในพื้นที่

“นับจากนี้ไป ทุกอย่างจะดำเนินการไปตามข้อเท็จจริงของสถานการณ์” นายภูมิธรรม กล่าว “ยอมรับว่ามีข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาชายแดนใต้ที่ไม่สอดคล้องกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะต้องมีการหารือเพิ่มเติม และผมยอมรับว่าเป็นเรื่องที่น่ากังวล”

เบื้องต้น ท่านจะเข้าปรึกษาหารือกับผู้อำนวยความสะดวกที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ตามที่ได้มีการหารือกันระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยและมาเลเซียก่อนหน้านี้

นายภูมิธรรม กล่าวเน้นย้ำว่า “กระบวนการพูดคุยสันติสุขกับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนจะเดินหน้าต่อไปได้ก็ต่อเมื่อสามารถควบคุมความรุนแรงในพื้นที่ได้” และกล่าวเสริมว่า “ประเทศไทยต้องการพูดคุยกับแกนนำกลุ่ม BRN ตัวจริงที่สามารถควบคุมการกระทำที่รุนแรงในพื้นที่ได้”

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *