ตลาดทุนไทยพร้อม! เปิดลงทุน Thai ESGX และสับเปลี่ยน LTF เริ่ม 2 พ.ค. พร้อมเช็ค LTF รวมศูนย์ทุกบลจ. ลดหย่อนภาษีถึง 30 มิ.ย.นี้
ตลาดทุนไทยพร้อม! เปิดลงทุน Thai ESGX และสับเปลี่ยน LTF เริ่ม 2 พ.ค. พร้อมเช็ค LTF รวมศูนย์ทุกบลจ. ลดหย่อนภาษีถึง 30 มิ.ย.นี้
กรุงเทพฯ 2 พฤษภาคม 2568 – ภาคตลาดทุนไทย โดยความร่วมมือของกระทรวงการคลัง, สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.), สมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ประกาศความพร้อมในการสนับสนุนการลงทุนในกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (Thai ESGX) และเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนจากกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) มายัง Thai ESGX ได้ตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคม 2568 พร้อมเปิดบริการใหม่ให้ผู้ลงทุนสามารถตรวจสอบข้อมูลการถือครองหน่วยลงทุน LTF ทุกกองทุน จากทุก บลจ. แบบรวมศูนย์ได้ที่เว็บไซต์ ตลท. หวังกระตุ้นเม็ดเงินใหม่เข้าสู่ตลาดและเพิ่มทางเลือกการลงทุนเพื่อความยั่งยืน ตั้งเป้าระดมทุนกว่า 2 หมื่นล้านบาท ภายในระยะเวลามาตรการพิเศษนี้ ซึ่งจะหมดเขตในวันที่ 30 มิถุนายน 2568
มาตรการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายภาครัฐที่มุ่งให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพื่อสนับสนุนการลงทุนในหุ้นกลุ่มความยั่งยืน (ESG) และเสริมสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดทุนไทย โดยเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ 2 แนวทาง คือ การลงทุนใหม่ใน Thai ESGX และการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนจาก LTF เดิมมายัง Thai ESGX ภายในกรอบเวลาที่กำหนด (พฤษภาคม – มิถุนายน 2568)
นายวโรทัย โกศลพิศิษฐ์กุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง กล่าวว่า มาตรการนี้มีขึ้นเพื่อบรรเทาผลกระทบจากการทยอยขายคืนหน่วยลงทุน LTF ในช่วงที่ผ่านมา และเป็นการยกระดับการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ พร้อมส่งเสริมการลงทุนในธุรกิจที่มีธรรมาภิบาลและให้ความสำคัญกับความยั่งยืน ซึ่งจะช่วยเพิ่มจำนวนนักลงทุนที่ใส่ใจ ESG และผลักดันให้บริษัทจดทะเบียนปรับตัวสู่ความยั่งยืนในระยะยาว
นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ ก.ล.ต. ยืนยันว่า ก.ล.ต. ได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องรองรับการจัดตั้งและจัดการ Thai ESGX ซึ่งปัจจุบันมี 37 กองทุนจาก 19 บลจ. พร้อมเสนอขายตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคมนี้ ก.ล.ต. ยังได้ร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมจัดการลงทุนเพื่ออำนวยความสะดวกในการตรวจสอบหน่วยลงทุน LTF แบบรวมศูนย์ ซึ่งจำเป็นสำหรับเงื่อนไขการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนทั้งหมดที่มีอยู่ เพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
นายธีรนาถ รุจิเมธาภาส กรรมการสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) เผยว่า อุตสาหกรรมจัดการลงทุนมีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการนำเสนอ Thai ESGX และรองรับการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน โดยมองว่าตลาดหุ้นไทยในปัจจุบันมีค่า P/E ที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตมาก ทำให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงถึง 4.5% ซึ่งถือเป็นจุดที่น่าสนใจสำหรับการลงทุน หากมีเม็ดเงินลงทุนใหม่จาก Thai ESGX เข้ามา และตลาดปรับตัวกลับไปที่ระดับ P/E ในอดีต คาดว่าจะเห็นผลตอบแทนจากการลงทุนใน Thai ESGX อยู่ที่ระดับตัวเลข 2 หลัก หรือไม่ต่ำกว่า 10% โดยเฉพาะการลงทุนระยะยาว 3-5 ปี ซึ่งบริษัทที่เน้น ESG มักมีการเติบโตที่ยั่งยืน โดยปัจจุบันมี AUM คงค้างในกองทุน LTF อยู่กว่า 1.5 แสนล้านบาท
ผู้สนใจสามารถลงทุนใหม่ใน Thai ESGX ได้ตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคม 2568 และแจ้งความประสงค์สับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF ได้ตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม 2568 โดยสามารถดำเนินการได้ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2568 เท่านั้น
นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวเสริมว่า ตลท. พร้อมให้บริการข้อมูล LTF แบบรวมศูนย์ผ่านเว็บไซต์ www.set.or.th/ltf ตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคมนี้ เพื่อให้ผู้ลงทุนตรวจสอบข้อมูลการถือครอง LTF ทั้งหมดจากทุก บลจ. ได้ในที่เดียว ช่วยให้การตัดสินใจสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนเป็นไปอย่างง่ายและรวดเร็วขึ้น นอกจากนี้ ตลท. ยังมีแผนขยายบริการเรียกดูข้อมูลครอบคลุมกองทุนลดหย่อนภาษีประเภทอื่น ๆ เช่น RMF, SSF, และ Thai ESG ในอนาคต
ทั้งนี้ กองทุน Thai ESGX มีนโยบายลงทุนเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิในทรัพย์สินที่โดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อมหรือความยั่งยืนของภาครัฐไทยหรือกิจการไทย โดยต้องลงทุนในหุ้นกลุ่มความยั่งยืนเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 65%.