เตือนภัย! มิจฉาชีพแอบอ้างศูนย์ช่วยเหลือเหยื่อออนไลน์ หลอกเหยื่อซ้ำซ้อน
ในยุคที่อาชญากรรมออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น บริษัท AMLBot Thailand ผู้เชี่ยวชาญด้านการติดตามและทวงคืนทรัพย์สินที่ถูกหลอกลวง เตือนประชาชนเกี่ยวกับรูปแบบใหม่ของการหลอกลวงที่ซับซ้อนมากขึ้น โดยมิจฉาชีพได้แอบอ้างเป็นศูนย์ช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมออนไลน์ เพื่อหลอกเอาข้อมูลและเงินจากเหยื่อซ้ำอีกครั้ง
รูปแบบการหลอกลวงที่พบได้บ่อย
- ติดต่อผู้เสียหายผ่านโซเชียลมีเดีย โทรศัพท์ หรือแอปพลิเคชันแชต
- อ้างว่าสามารถช่วยติดตามเงิน หรือยื่นคำร้องขอคืนทรัพย์สินให้
- หลอกให้ผู้เสียหายส่งข้อมูลส่วนตัว เช่น บัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน หรือเลขที่บัญชี
- บางรายอาจเรียกเก็บค่าดำเนินการล่วงหน้า หรือหลอกให้โอนเงินเพื่อยืนยันตัวตน
ลักษณะของศูนย์ช่วยเหลือปลอม
- ไม่มีข้อมูลบริษัทหรือจดทะเบียนนิติบุคคล
- ไม่ระบุชื่อบริษัทชัดเจน
- ไม่มีเลขทะเบียนนิติบุคคล
- ไม่มีที่อยู่สำนักงานหรือสถานที่ตั้งจริง
- ติดต่อได้เฉพาะผ่านแชต เช่น Line, Facebook, Tiktok หรือ Telegram
วิธีป้องกันตัวจากมิจฉาชีพ
- อย่าหลงเชื่อสายแปลกหน้าที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่
- ไม่โอนเงินโดยไม่ตรวจสอบ
- ตั้งค่าความปลอดภัยบัญชีธนาคารและแอปทางการเงินให้รัดกุม
- ระวังการให้ข้อมูลบนโซเชียลมีเดีย
- ตรวจสอบข่าวและคำเตือนจากแหล่งทางการ
- อย่าติดตั้งแอปพลิเคชันจากลิงก์ที่ไม่รู้จัก
หากสงสัยว่าอาจถูกหลอก ติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันทีที่สายด่วน ปปง. โทร. 1710 หรือตำรวจ 191
AMLBot Thailand ให้บริการติดตามทรัพย์สินที่โดนมิจฉาชีพหลอกโอนเงิน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย初期 ติดต่อได้ที่เว็บไซต์ https://amlbot.in.th/ หรือ Line @amlbot