พัทยา, ชลบุรี – ความคืบหน้ากรณีสะเทือนขวัญ นายวรนันท์ หรือ โน๊ต อายุ 25 ปี สาวประเภทสอง LGBTQ+ ถูกนายถงหยวน ฟู่ อายุ 42 ปี ชาวจีน ซึ่งเป็นคู่ขา ก่อเหตุฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม มีรายงานอ้างว่ามีการควักหัวใจและปอด ก่อนทิ้งศพไว้ในห้องน้ำของอพาร์ตเมนต์ในพื้นที่ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ผู้ก่อเหตุถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ควบคุมตัวได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ขณะเตรียมหลบหนีกลับประเทศจีน

ล่าสุดวันนี้ (28 เม.ย. 2568) พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ได้นำตัวนายถงหยวน ฟู่ ผู้ต้องหา มาสอบสวนเพิ่มเติม โดยมีล่ามคอยอำนวยความสะดวกด้านภาษา นอกจากนี้ ยังได้เชิญนายอ้วน อายุ 61 ปี บิดาของผู้เสียชีวิต เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมในฐานะพยาน

ในส่วนของการช่วยเหลือเยียวยา น.ส.มยุรี จำจรัส ผู้อำนวยการสำนักงานยุติธรรม จ.ชลบุรี ได้เดินทางมาพบนายอ้วน เพื่อแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับการได้รับเงินเยียวยาผู้เสียชีวิตจากเหตุอาชญากรรม ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะได้รับเงินประมาณ 200,000 บาท นอกจากนี้ มูลนิธิสวิง (SWING – Service Workers In Group) ได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือด้านคดี โดยจัดหาทนายความเพื่อดำเนินการทางกฎหมายให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต

สำหรับร่างของนายวรนันท์ พนักงานสอบสวนได้ส่งไปชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด เก็บหลักฐานดีเอ็นเอจากเล็บ ซึ่งคาดว่าอาจเกิดจากการต่อสู้ รวมถึงตรวจสอบบาดแผลต่าง ๆ โดยเฉพาะประเด็นบาดแผลจากการผ่าตัดบริเวณหน้าท้องที่ผู้เสียชีวิตเคยเข้ารับการรักษาพยาบาล ว่าเกิดขึ้นก่อนหรือหลังการเสียชีวิต เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมากที่สุด

นายอ้วน บิดาของผู้เสียชีวิต ได้เปิดใจถึงความรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่งกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์และคอมเมนต์ในโลกโซเชียลมีเดีย ซึ่งมีลักษณะซ้ำเติมความเจ็บปวดที่ต้องสูญเสียลูกชายไป บางความเห็นรุนแรงถึงขั้นกล่าวว่าผู้เสียชีวิต ‘สมควรตาย’ ซึ่งนายอ้วนกล่าวว่า อยากมีโอกาสพูดคุยกับผู้ที่แสดงความคิดเห็นในลักษณะดังกล่าว ส่วนกรณีที่ตนเองบันดาลโทสะเข้าทำร้ายร่างกายผู้ต้องหาชาวจีนในระหว่างการทำแผนฯ นั้น เกิดจากความโกรธและความเสียใจที่สะสมไว้ทั้งหมด

นายอ้วนยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ขณะนี้มีเพียงผู้ต้องหาที่สามารถให้การได้ ส่วนผู้เสียชีวิตไม่สามารถให้ข้อมูลได้อีกต่อไป สำหรับประเด็นที่สังคมให้ความสนใจเรื่องอวัยวะภายใน โดยเฉพาะ ‘ปอด’ ที่มีรายงานว่าหายไปนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ชี้แจงเบื้องต้นว่า อาจเกิดความคลาดเคลื่อนในการตรวจสอบจุดเกิดเหตุเบื้องต้น เนื่องจากยังไม่สามารถล้วงหรือสำรวจอวัยวะภายในได้อย่างละเอียด จึงต้องรอผลการชันสูตรจากสถาบันนิติเวชฯ เพื่อยืนยันข้อเท็จจริงอีกครั้งว่าอวัยวะดังกล่าวสูญหายไปจริงหรือไม่ หรือเพียงแค่มองไม่เห็นจากการตรวจสอบภายนอก

ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน พนักงานสอบสวนมีกำหนดจะนำตัวนายถงหยวน ฟู่ ผู้ต้องหา ไปยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดพัทยา เพื่อขออำนาจศาลฝากขังต่อไป