ประจวบคีรีขันธ์ – ครูสอนพละวัย 45 ปี เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองวาฬ แล้ว หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม. ยิงใส่คนขับรถบรรทุกพ่วงได้รับบาดเจ็บสาหัสกลางถนนเพชรเกษม เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เบื้องต้นถูกแจ้ง 3 ข้อหาหนัก รวมถึงพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา การเข้ามอบตัวทำให้ผู้ต้องหามีสิทธิ์ขอประกันตัวในชั้นสอบสวนได้

จากกรณีเหตุการณ์อุกอาจกลางดึก เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. ของวันที่ 27 เมษายน 2568 คนขับรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีบรอนซ์-เงิน ทะเบียนหมวดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ใช้อาวุธปืนยิงใส่คนขับรถบรรทุกพ่วงเข้าที่บริเวณชายโครง 1 นัด ทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบนถนนเพชรเกษม ฝั่งขาล่องใต้ หลักกิโลเมตรที่ 315 + 600 หมู่ 8 บ้านนาทอง ตำบลคลองวาฬ อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะขับรถหลบหนีไป

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 18.00 น. ของวันเดียวกัน (27 เม.ย. 68) นายชูฤทธิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี ผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นข้าราชการครูสอนวิชาพละที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอเข้ามอบตัวที่ สภ.คลองวาฬ พร้อมกับนำรถยนต์เก๋งโตโยต้า วีออส สีบรอนซ์-เงิน หมายเลขทะเบียน กข 5526 ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นรถยนต์ที่ใช้ในวันเกิดเหตุ มามอบให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบด้วย

การเข้ามอบตัวครั้งนี้เกิดขึ้น หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ทั้งปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม. ที่พบ 6 ปลอก และหัวกระสุน 1 หัว รวมถึงภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียงที่สามารถบันทึกเสียงปืนขณะเกิดเหตุได้ถึง 7 นัด ซึ่งหลักฐานต่างๆ ชี้ชัดไปถึงผู้ก่อเหตุ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามและประสานตำรวจท้องที่เข้ากดดัน กระทั่งนายชูฤทธิ์ตัดสินใจเข้ามอบตัวในที่สุด

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาต่อนายชูฤทธิ์ รวม 3 ข้อหา คือ 1. พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต 2. ยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และ 3. พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา อย่างไรก็ตาม การที่ผู้ต้องหาได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวด้วยตนเองนั้น ทำให้เขามีสิทธิ์ที่จะยื่นขอประกันตัวในชั้นสอบสวนได้ตามขั้นตอนของกฎหมาย

ขณะที่ นางสาว นก (ขอสงวนนามสกุล) ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกจุดเกิดเหตุ ได้เล่าถึงนาทีระทึกว่า เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมาขณะที่ตนกำลังนอนหลับอยู่ในบ้าน ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ทำให้ตกใจตื่นและรีบเปิดหน้าต่างออกมาดูเหตุการณ์ แต่ไม่กล้าที่จะออกไปข้างนอก ตอนแรกคิดว่าเป็นเสียงยางรถยนต์ระเบิด แต่เมื่อได้ยินเสียงดังต่อเนื่องหลายนัด จึงทราบว่าเป็นเสียงปืน ด้วยความตกใจจึงได้แต่หลบอยู่ในบ้านและเฝ้ามองเหตุการณ์ผ่านทางหน้าต่าง ซึ่งในขณะนั้นจุดเกิดเหตุมืดมาก เหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนักในพื้นที่นี้ โดยเมื่อนานมาแล้วเคยมีเหตุยิงกันเกิดขึ้นบริเวณจุดกลับรถซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุในครั้งนี้ไปไม่มากนัก