นิวเดลี, อินเดีย – เรื่องราวสุดพิลึกแต่แฝงไปด้วยอุทาหรณ์กำลังเป็นที่พูดถึง เมื่อชายชาวอินเดียรายหนึ่งตัดสินใจทำลายเอกสารสำคัญของตัวเองอย่างพาสปอร์ต ด้วยเหตุผลที่หลายคนคาดไม่ถึง นั่นคือ กลัวภรรยาจับได้ว่าแอบเดินทางมายังประเทศไทยหลายครั้ง การกระทำดังกล่าวส่งผลให้เขาต้องเผชิญกับความผิดทางกฎหมายที่ร้ายแรงกว่าที่คิด

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2568 ณ สนามบินแห่งหนึ่งในประเทศอินเดีย ขณะที่ผู้โดยสารชายวัย 28 ปีรายหนึ่ง ซึ่งเดินทางกลับมาจากนครดูไบ กำลังผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง ท่าทางมีพิรุธของเขาดึงดูดความสนใจของเจ้าหน้าที่อย่างชัดเจน และเมื่อตรวจสอบพาสปอร์ตของเขาอย่างละเอียด เจ้าหน้าที่ก็ต้องตกใจเมื่อพบว่า มีร่องรอยความเสียหายอย่างเห็นได้ชัดบริเวณตราประทับการเข้า-ออกประเทศหลายจุด

แหล่งข่าวรายงานว่า ตราประทับที่ได้รับความเสียหายนั้นมีจำนวนมากถึง 8-9 ตรา ครอบคลุมช่วงเวลาตั้งแต่ปี 2017 จนถึงปี 2025 ซึ่งถือเป็นการทำลายหลักฐานการเดินทางครั้งสำคัญ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการกักตัวชายคนดังกล่าวเพื่อสอบสวนทันที

ภายใต้การสอบสวน ชายคนนี้ได้ยอมรับสารภาพทั้งน้ำตาถึงแรงจูงใจในการกระทำอันอุกอาจนี้ เขาเปิดเผยว่าตนเองเคยเดินทางมายังประเทศไทยหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา แต่เกรงว่าภรรยาจะทราบประวัติการเดินทางดังกล่าว ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาในครอบครัว ด้วยความกลัว เขาจึงตัดสินใจใช้น้ำมาขัดถูบริเวณตราประทับในพาสปอร์ตอย่างเบามือที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อหวังจะลบหลักฐานการเดินทางมาไทย

อย่างไรก็ตาม ความพยายามในการปกปิดความลับของเขาไม่ได้เป็นไปตามแผน การขัดถูด้วยน้ำได้สร้างความเสียหายต่อตราประทับอื่นๆ ด้วย ทำให้ความผิดปกติปรากฏชัดเจนต่อสายตาของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง

สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของอินเดียได้ออกมายืนยันถึงเหตุการณ์นี้ พร้อมทั้งระบุว่า การกระทำของชายคนดังกล่าวถือเป็นความผิดร้ายแรง ตามกฎหมาย การทำลาย หรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงหนังสือเดินทาง ถือเป็นการปลอมแปลงเอกสารราชการ

ด้วยเหตุนี้ เจ้าหน้าที่จึงได้ตั้งข้อหาชายวัย 28 ปีผู้นี้ในหลายกรรมหลายวาระ ได้แก่ ฐานปลอมแปลงหนังสือเดินทาง และ ฐานปลอมแปลงเอกสารโดยมีเจตนาทุจริตหลอกลวง ส่งผลให้เขาถูกตำรวจจับกุมในที่เกิดเหตุทันที ส่วนพาสปอร์ตที่ได้รับความเสียหายนั้น ถูกส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบเพิ่มเติมและดำเนินการทางกฎหมายต่อไป

อนาคตของชายคนนี้ไม่แน่นอน เขากำลังเผชิญหน้ากับบทลงโทษทางกฎหมาย ซึ่งอาจรวมถึงการถูกปรับเงินจำนวนมหาศาล หรือแม้กระทั่งโทษจำคุก ซึ่งเป็นผลจากการกระทำที่เกิดจากความกลัวภรรยาที่นำไปสู่การทำลายเอกสารสำคัญของรัฐ

เหตุการณ์นี้เป็นเครื่องเตือนใจว่า การกระทำใดๆ ที่เข้าข่ายการปลอมแปลงหรือทำลายเอกสารทางราชการ ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม ถือเป็นความผิดทางอาญาที่มีผลกระทบที่ร้ายแรงตามมาเสมอ และไม่มีความลับใดที่จะซ่อนเร้นจากสายตาของเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายได้

ที่มา: indiatimes