ลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา – เรื่องราวความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนและไม่เหมือนใครของ นายเจมส์ บาร์เร็ตต์ (James Barrett) นักดนตรีชาวอเมริกันวัย 30 ปี จากนครลอสแอนเจลิส ได้กลายเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวาง หลังเขาเปิดเผยว่าปัจจุบันเขามีภรรยาทั้งหมดถึง 5 คน และมีลูกรวมกันถึง 11 คน โดยให้เหตุผลที่น่าตกใจว่า นี่คือทางออกหลังจากที่เขาไม่สามารถหักห้ามใจนิสัย ‘เจ้าชู้’ และ ‘นอกใจ’ แฟนที่คบมาตลอดชีวิตได้

นายบาร์เร็ตต์เปิดเผยว่า ภรรยาทั้ง 5 คนของเขา ได้แก่ คาเมรอน (Cameron) วัย 29 ปี, เจสสิก้า (Jessica) วัย 31 ปี, เรต้า (Reita) วัย 28 ปี, แกบบี้ (Gabby) วัย 30 ปี และ ไดอาน่า (Diana) วัย 30 ปี โดยเขาคบหากับภรรยาสองคนแรกคือ คาเมรอน และเจสสิก้า มายาวนานที่สุดถึง 13 ปี

นอกจากภรรยาทั้งห้าแล้ว เขายังมีลูก ๆ อีกรวม 11 คน ประกอบด้วย เอเดน (Aiden) วัย 12 ปี, เอเบล (Abel) วัย 11 ปี, เจสซี่ (Jesse) วัย 9 ปี, อายาน (Ayaan) วัย 6 ปี, เจ็ทท์ (Jett) วัย 5 ปี, เจดี (Jedi) วัย 4 ปี, โซเฟีย (Sophia) วัย 4 ปี, ออกเทเวีย (Octavia) วัย 3 ปี, บ็อบบี้ (Bobby) วัย 2 ปี, คลีโอ (Cleo) วัย 1 ปี และซัมเมอร์ (Summer) วัย 11 เดือน

นายบาร์เร็ตต์เล่าถึงเบื้องหลังการตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ในรูปแบบนี้ว่า ตลอดชีวิตที่ผ่านมา เขามักจะมีนิสัยเจ้าชู้และนอกใจคนรักอยู่เสมอ แม้จะพยายามแล้วแต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนนิสัยดังกล่าวได้ ในที่สุดเขาจึงตัดสินใจที่จะไม่ซ่อนเร้นอีกต่อไป แต่เลือกที่จะ “หลายใจให้เห็น” โดยการเปิดเผยความสัมพันธ์ทั้งหมดต่อคู่รักทุกคน และเข้าสู่การมีคนรักหลายคน (Polyamory หรือ Polygamy) อย่างเต็มตัว

เขากล่าวว่า การที่ทุกคนรับรู้ถึงความสัมพันธ์ที่หลากหลายนี้ คือสิ่งเดียวที่ช่วยให้เขาไม่ต้องแอบไปมีความสัมพันธ์ลับ ๆ เหมือนในอดีต ปัจจุบัน เขารู้สึกเป็นอิสระ สงบ และรู้สึกว่าตัวเองได้เติบโตขึ้น มีวุฒิภาวะมากขึ้น ทั้งในฐานะสามีและหัวหน้าครอบครัว

การมีครอบครัวใหญ่เช่นนี้ นายบาร์เร็ตต์ยอมรับว่าได้รับความช่วยเหลืออย่างมากจากภรรยาทั้งห้าในการดูแลลูก ๆ และจัดการเรื่องภายในบ้าน นอกจากนี้ ความปรารถนาส่วนตัวที่อยากมีลูกหลายคนมาตลอด ก็เป็นจริงได้เร็วขึ้นจากการมีภรรยาหลายคน และความปรารถนาใน “ความหลากหลาย” ของเขาก็ได้รับการตอบสนองในรูปแบบที่เปิดเผยและตกลงร่วมกัน

อย่างไรก็ตาม ชีวิตครอบครัวใหญ่ก็ไม่ได้มีแต่ความรักและความสุขเสมอไป นายบาร์เร็ตต์ยอมรับว่า ภาระและความรับผิดชอบย่อมมากขึ้นเป็นเงาตามตัว ทั้งในด้านอารมณ์และการเงิน บางครั้งก็ยังคงมีความหึงหวงเล็ก ๆ เกิดขึ้น เนื่องจากเขาไม่สามารถแบ่งเวลาให้ภรรยาแต่ละคนได้มากเท่าที่ควร

นายบาร์เร็ตต์กล่าวทิ้งท้ายว่า “มันเป็นงานหนักมากที่จะดูแลผู้หญิง 5 คนและลูก 11 คน และมันก็ยากที่จะเป็นที่พึ่งพิงของพวกเขา ทั้งทางอารมณ์และการเงิน แต่สุดท้ายแล้ว ผมรักพวกเขาทุกคน พวกเราต้องการทำให้การมีภรรยาหลายคนเป็นเรื่องปกติและถูกกฎหมาย ไม่ใช่เรื่องแปลก ๆ ทางศาสนาหรือเรื่องของลัทธิ แต่เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ทั่วไปที่ตัดสินใจว่าพวกเขาต้องการความสัมพันธ์แบบนี้”

เรื่องราวของนายเจมส์ บาร์เร็ตต์ สะท้อนให้เห็นถึงรูปแบบความสัมพันธ์ที่กำลังเป็นที่ถกเถียงในสังคมยุคใหม่ และเป็นตัวอย่างของการเลือกที่จะใช้ชีวิตในแบบที่ตนเชื่อ แม้จะแตกต่างจากขนบธรรมเนียมเดิมก็ตาม

ที่มา: NY Post