เงินดิจิทัล 10,000 บาท: คลังยัน เฟส 3-4 เดินหน้าตามกำหนดเดิม พร้อมวิธีเช็คสิทธิผ่านแอปฯ ‘ทางรัฐ’

กรุงเทพฯ – ความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งสำคัญของรัฐบาล โดยเฉพาะโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเลต ยังคงเป็นประเด็นที่ประชาชนให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2568 ผู้สื่อข่าวได้ติดตามความคืบหน้าโครงการดังกล่าว โดยเฉพาะในส่วนของ เฟส 3 ซึ่งจะแจกเงินให้กับกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 16-59 ปี ที่ผ่านเกณฑ์เรื่องรายได้และการครอบครองทรัพย์สิน ซึ่งคาดว่ามีจำนวนประมาณ 15 ล้านคน และต้องใช้งบประมาณราว 1.5 แสนล้านบาท

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2568 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้ออกมายืนยันถึงความพร้อมของโครงการ โดยระบุว่า กระทรวงการคลังยังคงดำเนินการโครงการดิจิทัลวอลเลต เฟส 3 สำหรับกลุ่มผู้มีสิทธิอายุ 16-20 ปี ตามกำหนดการเดิม

นายจุลพันธ์ ย้ำว่า การโอนเงินให้ผู้ได้รับสิทธิใน เฟส 3 จะเกิดขึ้นภายในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2568 นี้อย่างแน่นอน

สำหรับความพร้อมของระบบ ปัจจุบันแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มหลักในการรับเงินดิจิทัลวอลเลต ได้พัฒนาระบบดิจิทัลวอลเลตเสร็จสมบูรณ์แล้ว เหลือเพียงขั้นตอนการเชื่อมต่อระบบกับธนาคารพาณิชย์ต่างๆ

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเสริมว่า การพัฒนาระบบเพื่อเชื่อมต่อกับดิจิทัลวอลเลตบนแอปฯ ทางรัฐของแต่ละธนาคารอาจใช้เวลาแตกต่างกันไป และรัฐบาลต้องการให้ระบบพร้อมสมบูรณ์ เชื่อมต่อกับธนาคารหลักๆ ได้ทั้งหมดก่อนที่จะเปิดใช้งานจริง เพื่อความสะดวกของประชาชนทุกภาคส่วน

ขณะนี้กลุ่มแพลตฟอร์มผู้ให้บริการวอลเลตได้เชื่อมต่อระบบเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากมีความพร้อมทางเทคนิคสูง และคาดว่าภายในสิ้นไตรมาสที่ 2 นี้ ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ของไทยทั้งหมดจะสามารถเชื่อมต่อระบบได้สำเร็จ

ส่วนความคืบหน้าของโครงการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 4 ซึ่งครอบคลุมกลุ่มประชาชนที่เหลืออายุ 21-59 ปีนั้น ทางรัฐบาลยืนยันว่าจะดำเนินการแจกจ่ายเงินภายในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2568 ตามกำหนดการเดิมเช่นกัน เนื่องจากงบประมาณสำหรับโครงการนี้จะต้องถูกใช้จ่ายภายในเดือนกันยายน 2568 หากระบบดิจิทัลวอลเลตในเฟส 3 มีความเรียบร้อยและปลอดภัย ก็จะสามารถเดินหน้าโครงการในเฟส 4 ต่อไปได้ทันที

คุณสมบัติผู้ได้รับสิทธิเงินดิจิทัล 10,000 บาท (กลุ่มทั่วไป)

• ลงทะเบียนแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” และยืนยันตัวตนสำเร็จ
• มีที่อยู่ในทะเบียนบ้านตามกฎหมาย
• มีสัญชาติไทย
• อายุตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป (นับก่อนวันที่ 16 กันยายน 2567)
• ไม่เป็นผู้มีรายได้พึงประเมินเกิน 840,000 บาท สำหรับปีภาษี 2566
• ไม่เป็นผู้ที่มีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจรวมกันเกิน 500,000 บาท ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567
• ไม่อยู่ระหว่างต้องโทษจำคุกในเรือนจำ
• ไม่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการ/โครงการอื่น ๆ ของรัฐ
• ไม่ฝ่าฝืนเงื่อนไขของมาตรการ/โครงการอื่น ๆ ของรัฐ

กลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน ลงทะเบียนได้เมื่อใด?

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณากำหนดเวลาและเงื่อนไขในการเปิดลงทะเบียนสำหรับกลุ่มประชาชนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน

เมื่อถึงกำหนด ประชาชนกลุ่มนี้สามารถเดินทางไปลงทะเบียนผ่านธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ และที่ทำการไปรษณีย์ไทย โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก ได้แก่

• ธนาคารออมสิน
• ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)
• ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
• ไปรษณีย์ไทย

วิธีตรวจสอบสิทธิผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ”

ประชาชนสามารถตรวจสอบสถานะการรับสิทธิตามโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเลต ด้วย 6 ขั้นตอนง่ายๆ บนแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ดังนี้

1. เปิดแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” และเข้าสู่ระบบด้วยบัญชีของคุณ
2. เมื่อเข้าสู่ระบบแล้ว ให้มองหาและกดปุ่ม “ตรวจสอบสถานะ” ที่เกี่ยวข้องกับโครงการดิจิทัลวอลเลต
3. ระบบจะแจ้งขออนุญาตเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและขอยืนยันเบอร์โทรศัพท์มือถือเพื่อใช้ในการยืนยันตัวตน ให้กดปุ่ม “ยืนยันข้อมูล”
4. กรอกเบอร์โทรศัพท์มือถือของคุณที่ใช้ในการลงทะเบียน จากนั้นกดปุ่ม “รับรหัสทาง SMS (OTP)”
5. นำรหัส OTP ที่ได้รับทาง SMS มากรอกลงในช่องที่กำหนด แล้วกดปุ่ม “ยืนยันโทรศัพท์มือถือ”
6. ระบบจะแสดงผลสถานะในการรับสิทธิตามโครงการฯ หากขึ้นสถานะขั้นตอนที่ 3 คือระบบอยู่ระหว่างการตรวจสอบสิทธิ หากขึ้นขั้นตอนที่ 4 คือไม่ได้รับสิทธิ และหากขึ้นขั้นตอนที่ 5 คือได้รับสิทธิตามโครงการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท

ทั้งนี้ ประชาชนผู้มีสิทธิ ควรหมั่นตรวจสอบความคืบหน้าและรอการประกาศอย่างเป็นทางการจากภาครัฐอีกครั้ง เพื่อไม่ให้พลาดข้อมูลที่สำคัญ