ระทึก! ฝนถล่ม รถบรรทุกมะม่วงชนท้ายเทรลเลอร์ ไฟลุกท่วม ลามวอดรถตำรวจทางหลวง 2 คันที่อยุธยา มะม่วงเกลื่อนถนน เร่งสอบสาเหตุ

พระนครศรีอยุธยา – เกิดอุบัติเหตุสุดระทึกกลางดึก รถบรรทุก 6 ล้อบรรทุกมะม่วงเต็มคัน เสียหลักพุ่งชนท้ายรถเทรลเลอร์ที่จอดอยู่ริมถนนสายเอเชียขาเข้ากรุงเทพฯ อย่างรุนแรง ท่ามกลางสภาพอากาศที่มีฝนตกหนักและลมกระโชกแรง ทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้รถบรรทุกอย่างรวดเร็วก่อนจะลุกลามไปยังรถเก๋งตราโล่ของตำรวจทางหลวงที่จอดอยู่ในจุดพักรถใกล้เคียงเสียหายถึง 2 คัน ขณะที่มะม่วงหลายร้อยลูกกระเด็นกระจายเกลื่อนพื้นถนน เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงจึงควบคุมเพลิงไว้ได้ โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ตำรวจเร่งสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุครั้งนี้

เมื่อเวลา 01.00 น. ของวันที่ 27 เมษายน 2568 พ.ต.ท. สามารถ รักษาศักดิ์ รองสารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเหตุอุบัติเหตุรถบรรทุกพุ่งชนรถเทรลเลอร์และเกิดเพลิงลุกไหม้รุนแรง บริเวณถนนสายเอเชียขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงกิโลเมตรที่ 17 ซึ่งเป็นจุดพักรถของหน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงเอเชีย ตำบลคลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ภายหลังรับแจ้งเหตุ จึงรีบประสานรถดับเพลิงจากองค์การบริหารส่วนตำบลธนู และเจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธศวรรย์ เข้าตรวจสอบและให้การช่วยเหลือโดยเร่งด่วน

ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบกลุ่มควันและเปลวเพลิงกำลังโหมลุกไหม้อย่างรุนแรง บริเวณรถบรรทุก 6 ล้อ ที่บรรทุกมะม่วงมาเต็มคัน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน เพลิงได้ลุกลามอย่างรวดเร็วไปติดรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน ติดตราโล่ของตำรวจทางหลวง และรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ติดตราโล่ของตำรวจทางหลวง ซึ่งจอดปฏิบัติหน้าที่อยู่ในจุดพักรถใกล้เคียง ได้รับความเสียหายจากเพลิงไหม้รวม 2 คัน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงพร้อมด้วยรถน้ำได้เร่งระดมฉีดน้ำเพื่อควบคุมเพลิง ใช้เวลากว่า 30 นาทีจึงสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้

จากการตรวจสอบสภาพความเสียหาย พบว่ารถบรรทุก 6 ล้อถูกเพลิงไหม้เสียหายเกือบทั้งหมด ล้อรถบรรทุกหลุดกระเด็นตกอยู่กลางถนน นอกจากนี้ มะม่วงที่บรรทุกมาหลายร้อยลูกกระเด็นกระจายเกลื่อนพื้นผิวการจราจร สร้างความยุ่งยากในการสัญจรเล็กน้อย ห่างออกไปเล็กน้อย พบรถเทรลเลอร์บรรทุกปูนซีเมนต์ จอดอยู่ มีร่องรอยถูกเฉี่ยวชนบริเวณช่วงท้ายด้านขวาและมีร่องรอยถูกความร้อนจากเพลิงไหม้บางส่วน

พยานผู้เห็นเหตุการณ์ ซึ่งขับขี่รถยนต์ตามหลังรถบรรทุก 6 ล้อคันเกิดเหตุ เล่าว่า ในช่วงเวลาดังกล่าวมีฝนตกลงมาอย่างหนักและมีลมพัดแรง ขณะที่ตนขับตามหลังรถบรรทุก ก็สังเกตเห็นประกายไฟลุกไหม้ขึ้นจากบริเวณช่วงล้อหลังของรถบรรทุกก่อนที่รถจะเสียหลัก พุ่งเข้าชนท้ายรถเทรลเลอร์ที่จอดอยู่ข้างทางอย่างแรง ทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้นมาอีกครั้งอย่างรวดเร็ว ตนเองรู้สึกตกใจมากและพยายามขับรถผ่านจุดเกิดเหตุมาได้อย่างหวุดหวิด

ด้านนายสมพร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี คนขับรถบรรทุก 6 ล้อ ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ตนเองขับรถบรรทุกมะม่วงมาจากจังหวัดสุโขทัย กำลังมุ่งหน้าไปส่งที่จังหวัดสมุทรสาคร เมื่อมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุ มีฝนตกลงมาอย่างหนักมากจนทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นแย่ลง ตนเองมองไม่เห็นว่ามีรถเทรลเลอร์จอดอยู่ข้างทาง จึงพุ่งเข้าชนท้ายอย่างจังและเกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้นอย่างรวดเร็ว โชคดีที่ตนเองมีสติและสามารถหนีออกมาจากรถได้อย่างปลอดภัยก่อนที่เพลิงจะลามทั้งคัน

ขณะที่นายหนูไกร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี คนขับรถเทรลเลอร์ เล่าว่า ตนเองจอดรถพักผ่อนนอนหลับอยู่บริเวณหน้าจุดบริการทางหลวงอยุธยา ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงกระแทกดังสนั่นอย่างรุนแรง จึงรีบตื่นขึ้นมาดูและพบว่ามีเพลิงไหม้เกิดขึ้นที่บริเวณท้ายรถของตนเอง จึงรีบสตาร์ทเครื่องและขยับรถออกห่างจากจุดที่เพลิงไหม้อย่างรวดเร็ว

เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงซึ่งประจำอยู่ที่ตู้บริการประชาชนในจุดเกิดเหตุ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในช่วงเวลาเกิดเหตุมีสภาพอากาศเลวร้าย มีลมแรงและฝนตกหนัก หลังจากที่ฝนเริ่มซาลงไม่นานก็ได้ยินเสียงชนดังสนั่น จึงรีบออกมาดูและพบว่ามีเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง และได้รีบประสานไปยังหน่วยงานดับเพลิงและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาระงับเหตุโดยทันที

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา ได้ทำการบันทึกภาพที่เกิดเหตุและเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในจุดเกิดเหตุอย่างละเอียด พร้อมทั้งได้เชิญตัวคนขับรถบรรทุก 6 ล้อ และคนขับรถเทรลเลอร์ทั้งสองคน ไปทำการสอบปากคำเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนสมบูรณ์ และจะได้ดำเนินการสอบสวนหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริงในครั้งนี้ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *