ด่วน! รวบหนุ่มจีนฆ่าโหด ‘สาวสอง’ ควักเครื่องในคาห้องพักพัทยา ชื่นชมตำรวจสกัดจับก่อนหนีออกนอกประเทศ
ชลบุรี – ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ประสาน ตม. รวบตัวชายชาวจีนได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ หลังก่อเหตุฆ่าโหดสาว LGBTQ วัย 25 ปี อย่างทารุณในห้องพักที่พัทยา ผู้ต้องหาอ้างถูกทำร้ายก่อน แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากพบหลักฐานน่าสงสัยในที่เกิดเหตุ ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ชื่นชมทีมทำงานที่คลี่คลายคดีได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2568 พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (ผบช.ภ.2) เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นในพื้นที่ สภ.เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี โดยกล่าวชื่นชมการทำงานของทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ที่สามารถสืบสวนติดตามและจับกุมตัวผู้ต้องหาได้อย่างรวดเร็วก่อนที่จะหลบหนีออกนอกประเทศ
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในห้องพักแห่งหนึ่งในตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ได้รับแจ้งเหตุพบศพผู้เสียชีวิตเมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. ของวันนี้ (26 เม.ย.) เมื่อเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบศพหญิงสาว LGBTQ วัย 25 ปี อยู่ในสภาพถูกทำร้ายอย่างโหดเหี้ยม โดยมีการกรีดตั้งแต่บริเวณอวัยวะเพศไปจนถึงช่วงอก และควักเอาอวัยวะภายในออกมา จากการตรวจสอบเบื้องต้นของแพทย์นิติเวช พบว่าอวัยวะปอดหายไป 1 ข้าง
จากการสืบสวนทราบว่าห้องพักดังกล่าวถูกเช่าโดยชายชาวจีน ชื่อนายฟู่ เข้าพักเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2568 และมีกำหนดเช็คเอาต์วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ในคืนวันที่ 25 เม.ย. เวลาประมาณ 22.15 น. นายฟู่ได้พาผู้เสียชีวิตเข้ามาในห้องพัก ผู้พักอาศัยรายอื่นได้ยินเสียงทะเลาะวิวาทอย่างรุนแรงในช่วงกลางดึกเวลาประมาณ 02.00 น. ก่อนที่เสียงจะเงียบลงในอีกหนึ่งชั่วโมงต่อมา
กระทั่งเวลา 09.00 น. ของวันที่ 26 เม.ย. เจ้าของที่พักได้เข้าตรวจสอบหลังจากมีผู้เช่ารายอื่นร้องเรียนเรื่องเสียงดังเมื่อคืน แต่พบว่าห้องถูกล็อก จึงเปิดเข้าไปและพบศพดังกล่าว พร้อมร่องรอยคราบเลือดในห้อง
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ได้เข้าคลี่คลายคดีอย่างรวดเร็ว ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่านายฟู่ ชายชาวจีนที่เช่าห้อง ได้ออกจากที่พักไปเพียงลำพังเมื่อเวลา 07.50 น. ของวันนี้ และพบว่าได้โดยสารรถจักรยานยนต์รับจ้างไปต่อรถทัวร์มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพมหานคร
พล.ต.ท.ยิ่งยศ เปิดเผยว่า เมื่อทราบข้อมูลเส้นทางการหลบหนี ได้ประสานไปยัง พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดำรงค์ชัย ผู้กำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 (ผกก.สส.บก.ตม.3) เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองช่วยเฝ้าระวังและสกัดจับตัว หากพบให้ใช้อำนาจระงับการเข้าออกประเทศไว้ก่อน
ต่อมาในช่วงบ่ายวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ตรวจพบนายฟู่กำลังเตรียมตัวจะเดินทางไปยังเมืองอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน ในเที่ยวบินเวลา 15.15 น. จึงควบคุมตัวไว้ได้ ซึ่งใบหน้าของนายฟู่มีร่องรอยบาดแผลคล้ายถูกขีดข่วน
หลังควบคุมตัว นายฟู่ ได้ถูกนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองพัทยา เบื้องต้นให้การอ้างว่าได้ทำไปเพราะถูกผู้เสียชีวิตทำร้ายก่อน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การดังกล่าว เนื่องจากพยานหลักฐานในห้องที่เกิดเหตุมีความน่าสงสัยอย่างยิ่ง โดยพบถุงกระสอบและสายรัดข้อมือสำหรับใช้พันธนาการจำนวนมาก ส่วนหนึ่งอยู่บนเตียงและข้างร่างผู้เสียชีวิต นอกจากนี้ผู้ต้องหายังอ้างว่าอุปกรณ์เหล่านี้ซื้อเตรียมไว้ก่อนแล้ว ซึ่งขัดแย้งกับคำให้การว่าถูกทำร้ายก่อน
พล.ต.ท.ยิ่งยศ ระบุว่า จะต้องทำการสืบสวนสอบสวนอย่างละเอียด และต้องประสานข้อมูลกับสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย รวมถึงผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการก่อเหตุ รวมถึงที่มาของอุปกรณ์ที่พบในที่เกิดเหตุต่อไป
ความสำเร็จในการคลี่คลายและจับกุมคดีนี้อย่างรวดเร็ว ได้รับคำชื่นชมจาก ผบช.ภ.2 โดยยกความดีความชอบให้กับทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี (ผบก.ภ.จว.ชลบุรี) รวมถึง พ.ต.อ.ชาตรี สุขศิริ, พ.ต.อ.เอนก สระทองอยู่ ผู้กำกับการ สภ.เมืองพัทยา, พ.ต.ท.อรุษ สภานนท์ รองผู้กำกับการสืบสวน สภ.เมืองพัทยา, พ.ต.ท.สุรเดช อิ่มใจ สารวัตรสืบสวน สภ.เมืองพัทยา, พ.ต.ท.ธเนศน์ แสงหิรัญ สารวัตรสืบสวน สภ.เมืองพัทยา และเจ้าหน้าที่ตำรวจงานสืบสวน สภ.เมืองพัทยา ทุกนาย