ป้าวัย 65 ผวาสัตว์มีพิษจากบ้านร้างข้างเคียง งูเห่าดำบุกเข้าบ้าน ร้องหน่วยงานรัฐวุ่นวาย ประธานหมู่บ้านช่วยเจรจาคลี่คลาย
ปทุมธานี – วันที่ 26 เมษายน 2568 นางปาริชาติ อายุ 65 ปี ชาวบ้านย่านคลองแปด ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ร้องเรียนผู้สื่อข่าวถึงปัญหาที่สร้างความหวาดกลัวให้กับคนในครอบครัว หลังเผชิญปัญหาสัตว์เลื้อยคลานมีพิษบุกรุกบ้านอย่างต่อเนื่อง โดยเชื่อว่ามีต้นตอมาจากบ้านร้างที่อยู่ติดกัน ซึ่งปล่อยให้ต้นไม้และวัชพืชขึ้นอย่างหนาแน่น
นางปาริชาติ เล่าว่า บ้านที่ประสบปัญหาเป็นบ้านชั้นเดียว มีรั้วรอบขอบชิด แต่บ้านที่อยู่ติดกันทางด้านขวาจากหน้าบ้าน ถูกปล่อยทิ้งร้างโดยไม่มีคนอยู่อาศัยมาเป็นเวลานาน สภาพแวดล้อมเต็มไปด้วยความรกร้าง ต้นไม้และต้นหญ้าขึ้นสูงจนน่าเป็นห่วง แม้ภายหลังเจ้าของเดิมจะมีการปรับปรุงเทปูนบริเวณข้างบ้านและตัดต้นไม้ใหญ่ไปบ้าง แต่ต้นไม้เล็กๆ และหญ้าก็ยังคงขึ้นรกอยู่ดี ทำให้เกรงว่าจะเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์มีพิษต่างๆ และเลื้อยเข้ามาทำอันตรายคนในบ้านได้
คุณป้าปาริชาติ เผยถึงความพยายามในการแก้ไขปัญหาว่า เคยเห็นงูเลื้อยเข้าไปในบ้านจากทางรั้วบ้านข้างๆ หลายครั้ง เคยเรียกหน่วยกู้ภัยมาช่วยจับแต่งูก็หนีลงท่อไปก่อน เป็นงูเห่าตัวใหญ่สีดำ ทำให้คนในบ้านหวาดกลัวมาก ก่อนหน้านี้สามีก็เคยตีงูที่เข้ามาในบ้านตายมาแล้ว เธอพยายามติดต่อเจ้าของบ้านร้างแต่ก็ติดต่อไม่ได้ จึงตัดสินใจโทรไปที่เทศบาลธัญบุรี แต่ได้รับคำแนะนำให้ติดต่อที่อำเภอแทน เมื่อโทรไปยังศูนย์ดำรงธรรมอำเภอธัญบุรี กลับถูกเจ้าหน้าที่วางสายใส่อย่างกะทันหัน คุณป้าตั้งข้อสังเกตว่า อาจเป็นเพราะก่อนหน้านี้เธอเคยร้องเรียนเรื่องนี้ไปยังทำเนียบรัฐบาล และทางทำเนียบฯ ได้ส่งเรื่องมายังอำเภอ ทำให้ปลัดฯ บางคนอาจไม่พอใจ
หลังจากนั้น มีปลัดฯ สองคน พร้อมด้วยกำนันและเจ้าหน้าที่เทศบาลจำนวนหนึ่ง ได้เดินทางเข้ามาดูพื้นที่ กำนันรับปากว่าจะช่วยติดต่อเจ้าของบ้านให้ และจะมีคนมาช่วยตัดต้นไม้ให้ จนกระทั่งครึ่งเดือนต่อมา ก็มีคนเข้ามาช่วยตัดต้นไม้จนโล่งเตียนไปพักหนึ่ง
แต่สิ่งที่ทำให้คุณป้าปาริชาติยังติดใจและกังวลใจ คือ แม้จะบอกว่าติดต่อเจ้าของบ้านไม่ได้ แต่กลับมีการติดประกาศขายบ้านหลังนี้พร้อมเบอร์โทรศัพท์เจ้าของ และมีการเปิดบ้านให้คนเข้ามาดูได้อย่างไร นอกจากนี้ ต้นไม้ก็เริ่มกลับมาขึ้นใหม่อีกครั้ง ทำให้ไม่แน่ใจว่าปัญหานี้จะได้รับการแก้ไขอย่างยั่งยืนหรือไม่
ด้านประธานหมู่บ้าน ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ในช่วงแรกตนเองก็ไม่รู้จักและไม่มีเบอร์ติดต่อเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว จึงสอบถามลูกบ้านในหมู่บ้านจนมีผู้ให้เบอร์โทรศัพท์มาได้ จึงโทรไปพูดคุยกับเจ้าของบ้าน เล่าถึงปัญหาที่บ้านข้างเคียงร้องเรียนเรื่องความรกร้างและสัตว์เลื้อยคลาน เจ้าของบ้านเดิมยินดีรับผิดชอบค่าแรงในการหาคนมาช่วยตัดต้นไม้ให้ 1,500 บาท จนสภาพบ้านโล่งเตียนตามที่เห็น
ประธานหมู่บ้าน กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากการตัดต้นไม้ผ่านไปประมาณเดือนกว่า เจ้าของบ้านเดิมได้ขอให้ช่วยเป็นธุระติดประกาศขายบ้านให้ ซึ่งตอนนี้ทราบว่าเจ้าของบ้านหลังนี้ได้ขายบ้านให้กับเจ้าของใหม่ไปเรียบร้อยแล้ว คาดว่าเจ้าของบ้านคนใหม่น่าจะเข้ามาดำเนินการพัฒนาปรับปรุงพื้นที่ต่อไป ซึ่งก็จะเป็นเรื่องของเจ้าของบ้านคนใหม่ที่จะบริหารจัดการพื้นที่ของตนเอง