กระบี่ – อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ไม่นิ่งนอนใจ หลังพบคลิปนักท่องเที่ยวต่างชาติ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ในเขตหวงห้ามกลางทะเล สั่งปรับผู้ประกอบการเรือที่พาเข้าไปทันที 10,000 บาท พร้อมว่ากล่าวตักเตือน ย้ำเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายอุทยานฯ อย่างชัดเจน

จากกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา แสดงภาพกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกำลังแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ด้วยการดื่มเบียร์และสูบบุหรี่ ขณะที่อยู่ในบริเวณกลางทะเล ซึ่งเป็นพื้นที่ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ สร้างความกังวลถึงการไม่เคารพกฎระเบียบของพื้นที่คุ้มครองทางทะเล

ล่าสุด นายแสงสรี ซองทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ได้ออกมาเปิดเผยถึงความคืบหน้าในเรื่องนี้ว่า ทางอุทยานฯ ได้ดำเนินการสืบหาข้อเท็จจริงและรวบรวมข้อมูลจากผู้ที่พบเห็นเหตุการณ์ รวมถึงสอบถามผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ จนทราบแน่ชัดว่า บริเวณที่เกิดเหตุคือ อ่าวปิเละลากูน ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวสำคัญและมีความเปราะบางทางธรรมชาติในเขตอุทยานฯ

จากการตรวจสอบพบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นโดยมีผู้ประกอบการเรือสปีดโบ๊ตรายหนึ่งเป็นผู้พากลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกลุ่มนี้ ซึ่งได้เหมาลำเรือเข้ามาท่องเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติฯ และที่สำคัญคือ ผู้ประกอบการรายนี้ได้นำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาในพื้นที่อุทยานฯ ด้วยตัวเอง และนำไปแจกจ่ายให้กับนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าว

พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่นำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลงไปดื่มขณะที่กำลังเล่นน้ำในอ่าวปิเละลากูน รวมถึงการสูบบุหรี่ในพื้นที่อุทยานฯ นั้น ถือเป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามและระเบียบที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด เนื่องจากอุทยานแห่งชาติเป็นพื้นที่คุ้มครองทางธรรมชาติที่ต้องสงวนรักษาไว้

นายแสงสรี ซองทอง ระบุว่า การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 20 ซึ่งระบุถึงการห้ามกระทำการใดๆ ที่จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่อุทยานฯ ประกอบกับ ระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ว่าด้วยการเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2563 ข้อ 6 (7) ซึ่งมีข้อห้ามโดยเฉพาะเรื่องการจำหน่ายหรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในเขตอุทยานฯ

ด้วยเหตุนี้ ทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จึงได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับผู้ประกอบการเรือที่นำพานักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวเข้ามา เป็นจำนวนเงิน 10,000 บาท ตามอำนาจที่กฎหมายกำหนดไว้ นอกจากนี้ยังได้ทำหนังสือว่ากล่าวตักเตือนผู้ประกอบการรายนี้เป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกในอนาคต

หัวหน้าอุทยานแห่งชาติฯ กล่าวเน้นย้ำว่า ทางอุทยานฯ ได้ประชาสัมพันธ์และแจ้งข้อห้ามต่างๆ ในการเข้ามาท่องเที่ยวและดำเนินกิจกรรมในเขตอุทยานฯ ให้ผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวทราบมาโดยตลอด การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปเพื่อการคุ้มครองและรักษาทรัพยากรธรรมชาติในเขตอุทยานฯ หากประชาชนหรือผู้ใดพบเห็นการกระทำผิดต่างๆ ในเขตอุทยานฯ ขอความร่วมมือให้แจ้งเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ทราบทันที เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไปอย่างเคร่งครัด

ขอบคุณภาพ : โหดจัง จังหวัดภูเก็ต