พิชัย ชุณหวชิร นั่งนายกสมาคมมวยฯ สมัย 5 สโมสรสมาชิกไว้วางใจ มุ่งมั่นทวงทองโอลิมปิก แม้งานคลังรัดตัว

กรุงเทพฯ – นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้รับเลือกจากสโมสรสมาชิกให้นั่งตำแหน่งนายกสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย เป็นสมัยที่ 5 ติดต่อกัน ถือเป็นการได้รับความไว้วางใจให้บริหารงานสมาคมฯ ต่อเนื่องยาวนาน แม้ว่าปัจจุบันจะมีภาระหน้าที่สำคัญในตำแหน่งระดับสูงของรัฐบาลควบคู่ไปด้วยก็ตาม

การเลือกตั้งดังกล่าวเกิดขึ้นในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 ของสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 26 เมษายน ที่โรงแรมเอบีน่า เฮ้าส์ โดยมีวาระสำคัญคือการเลือกตั้งนายกสมาคมฯ สืบเนื่องจากนายพิชัย ชุณหวชิร ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฯ อยู่ก่อนหน้านี้ ได้ลาออกจากตำแหน่งเพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับของสมาคมฯ ที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งนายกสมาคมฯ ในคราวเดียวกันกับการประชุมใหญ่สามัญประจำปี นอกจากวาระเลือกตั้งแล้ว ที่ประชุมยังได้รับฟังการแถลงกิจการและผลงานของสมาคมฯ ในรอบปีที่ผ่านมา รวมถึงการแถลงบัญชีรายรับ รายจ่าย และบัญชีงบดุล ซึ่งสโมสรสมาชิกได้ให้การรับรอง และมีการแถลงแผนงานในปีงบประมาณ 2568

สำหรับการลงคะแนนเลือกตั้งตำแหน่งนายกสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทยในครั้งนี้ มีผู้เสนอชื่อเข้าชิงตำแหน่งเพียงคนเดียวคือนายพิชัย ชุณหวชิร และจากสโมสรสมาชิกที่เดินทางเข้าร่วมประชุมทั้งหมด 69 สโมสร จากจำนวนสโมสรสมาชิกทั้งหมด 82 สโมสร ได้พร้อมใจกันชูมือสนับสนุนและลงมติไว้วางใจให้นายพิชัย ชุณหวชิร กลับมาดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทยอีก 1 สมัย ซึ่งถือเป็นสมัยที่ 5 ของเขา โดยมีวาระการดำรงตำแหน่งยาวนาน 4 ปี คือตั้งแต่ปี 2568 จนถึงปี 2571

ภายหลังได้รับเลือกตั้ง นายพิชัย ชุณหวชิร ได้กล่าวขอบคุณสโมสรสมาชิกที่ให้ความไว้วางใจ พร้อมยอมรับว่าวาระการทำงานในครั้งนี้ถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง เนื่องจากมีภาระหน้าที่งานทางการเมืองและด้านเศรษฐกิจของประเทศที่ต้องดูแลมากมาย อย่างไรก็ตาม นายพิชัยได้ให้คำมั่นต่อสมาชิกสโมสรว่า ทั้งตัวเขาเองและคณะผู้บริหารสมาคมฯ จะทุ่มเทเดินหน้านำพานักกีฬามวยสากลของไทยไปสู่เป้าหมายสำคัญคือการทวงเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์กลับคืนมาให้ได้ หลังจากที่ทีมกำปั้นไทยพลาดเหรียญทองในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกมาแล้วถึง 4 ครั้งติดต่อกัน

นายพิชัยยังได้กล่าวถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการเตรียมทีมนักมวยและการเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ที่จะมีขึ้นปลายปีนี้ รวมถึงแจ้งให้สโมสรสมาชิกทราบถึงแผนการดำเนินงานของสมาคมฯ ทั้งในปีนี้และปีหน้า

อย่างไรก็ตาม การทำงานในสมัยที่ 5 ของนายพิชัย ชุณหวชิร ในฐานะผู้นำมวยสากลไทยไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากงานบริหารประเทศแล้ว ยังมีปัญหาและอุปสรรคที่ต้องแก้ไข เช่น ปัญหาการหานักกีฬามวยสากลที่มีคุณภาพเข้ามาเก็บตัวฝึกซ้อมในแคมป์ทีมชาติ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวล

นอกจากนี้ ยังมีความท้าทายในเรื่องการปรับเปลี่ยนพิกัดน้ำหนักของกีฬามวยสากลในโอลิมปิกเกมส์ 2028 ซึ่งจะมีการชิงชัยรวมทั้งหมด 14 เหรียญทอง แบ่งเป็นมวยชาย 7 รุ่น และมวยหญิง 7 รุ่น โดยรุ่นน้ำหนักใหม่สำหรับมวยชายคือ รุ่น 55 กก., 60 กก., 65 กก., 70 กก., 80 กก., 90 กก. และมากกว่า 90 กก. ส่วนมวยหญิงประกอบด้วยรุ่น 51 กก., 54 กก., 57 กก., 60 กก., 65 กก., 70 กก., และมากกว่า 80 กก.

จากพิกัดน้ำหนักที่เปลี่ยนแปลงไป โอกาสที่ทีมมวยสากลไทยจะคว้าโควตาไปโอลิมปิกเกมส์ยังคงมีแนวโน้มที่จะมาจากนักมวยในรุ่นน้ำหนักเล็กเช่นเดิม อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่น่ากังวลอีกหนึ่งเรื่องคือ ปัจจุบันยังไม่มีผู้ตัดสินมวยสากลชาวไทยคนใดได้รับการคัดเลือกให้ไปทำหน้าที่ในโอลิมปิกเกมส์ ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นภารกิจที่หนักหนาสาหัสสำหรับนายพิชัย ชุณหวชิร ในการบริหารสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทยในสมัยที่ 5 นี้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *