นครราชสีมา – เมื่อเวลา 02.50 น. ของวันที่ 26 เมษายน 2568 ได้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงขึ้นบริเวณหลังสถานีรถไฟบ้านเกาะ ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.นครราชสีมา เมื่อรถกระบะคันหนึ่งได้พุ่งเข้าชนเสาไฟฟ้าแรงสูงของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ส่งผลให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง และสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนจำนวนมาก

ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ร.ต.อ.สมกฤติ ศิรสุกล รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.จอหอ พบรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไททัน สีดำ หมายเลขทะเบียน ยจ 4590 นครราชสีมา สภาพด้านหน้าพังเสียหาย ชนอัดคาอยู่กับเสาไฟฟ้าแรงสูงขนาด 22 กิโลโวลต์ (KV) โดยแรงชนทำให้เสาไฟฟ้าต้นดังกล่าวและเสาไฟฟ้าแรงสูงที่ตั้งอยู่ในแนวเดียวกันหักโค่นรวม 7 ต้น หม้อแปลงไฟฟ้าขนาด 160 KVA จำนวน 1 หม้อ ได้รับความเสียหายหนัก รวมถึงสายไฟฟ้าทั้งแรงสูงและแรงต่ำขาดเป็นระยะทางกว่า 7 ช่วงเสา และอุปกรณ์ส่วนประกอบต่างๆ ก็เสียหายเช่นกัน

เนื่องจากเสาไฟฟ้าที่ถูกชนเป็นเสาหลักที่ใช้จ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับชุมชนขนาดใหญ่ รวมถึงโครงการบ้านจัดสรรหลายแห่ง เช่น โครงการสุรนารีวิวล์, โครงการลากูน่า 1, 2, 3, โครงการอานาสารา 4, โครงการเดอะไนน์ และบ้านเรือนประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวคลองส่งน้ำชลประทานไปจนถึงถนนมหิศราธิบดี ทำให้มีผู้ใช้ไฟฟ้าได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ถึง 2,673 ครัวเรือน กระแสไฟฟ้าดับลงทันทีเป็นบริเวณกว้าง

ณ เวลา 12.00 น. ของวันเดียวกัน พื้นที่ประสบภัยยังคงไม่สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ตามปกติ สร้างปัญหาความเดือดร้อนอย่างหนักให้กับประชาชน โดยเฉพาะปัญหาเครื่องปรับอากาศและเครื่องปั๊มน้ำที่ไม่สามารถใช้งานได้ นอกจากนี้ ยังมีผู้ป่วยติดเตียงหลายรายที่ต้องพึ่งพาเครื่องช่วยหายใจ ญาติของผู้ป่วยต้องเร่งร้องขอความช่วยเหลือเพื่อเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปยังที่ปลอดภัย

ด้านการแก้ไขปัญหา นายสุพจ บุบผาพรม ผู้จัดการ กฟภ.สาขาเมือง นครราชสีมา ได้เร่งประสานงานนำรถ Mobile Generator หรือรถติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเคลื่อนที่ จากจังหวัดใกล้เคียงเข้ามาช่วยเหลือ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและจ่ายกระแสไฟฟ้าชั่วคราวในบางพื้นที่ พร้อมระดมเจ้าหน้าที่ช่างผู้เชี่ยวชาญกว่า 200 คน เข้ามาดำเนินการซ่อมแซมระบบทั้งหมด คาดว่าจะสามารถดำเนินการแล้วเสร็จและจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ตามปกติในช่วงเย็นวันนี้ โดยประเมินมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นจากอุบัติเหตุครั้งนี้มากกว่า 2 ล้านบาท

ในส่วนของการสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัว นายสมส่วน นาฮ่อม อายุ 30 ปี ผู้ขับขี่รถกระบะคันที่ก่อเหตุ มาทำการสอบปากคำและตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย ซึ่งผลการตรวจพบว่าปริมาณแอลกอฮอล์เป็นศูนย์ โดยนายสมส่วนให้การอ้างว่าเกิดอาการหลับในขณะขับขี่จึงทำให้รถเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้า

นอกจากความเดือดร้อนเรื่องไฟฟ้าดับแล้ว ยังมีรายงานความเสียหายอื่นๆ ตามมา โดยมีผู้เสียหายทยอยเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากสัตว์น้ำจืดและสัตว์น้ำเค็มที่เลี้ยงไว้เพื่อจำหน่าย ได้ตายลงจำนวนมากเพราะไฟฟ้าดับทำให้เครื่องเติมอากาศออกซิเจนไม่ทำงาน รวมถึงปลาสวยงามที่เลี้ยงไว้ในตู้ก็ตาย และอาหารสดที่แช่ไว้ในตู้เย็นก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน