นายกฯ มอบ ‘ชูศักดิ์ ศิรินิล’ ผู้แทนพิเศษรัฐบาลไทย ร่วมพิธีพระศพ ‘สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส’ ที่นครรัฐวาติกัน 26 เม.ย.นี้
กรุงเทพฯ – เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 25 เมษายน 2568 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้แทนพิเศษของรัฐบาลไทย เพื่อเข้าร่วมพิธีพระศพของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิกและนครรัฐวาติกัน
โดยนายชูศักดิ์ ศิรินิล มีกำหนดการเดินทางออกจากประเทศไทยไปยังนครรัฐวาติกันในวันที่ 25 เมษายนนี้ เวลา 09.05 น. และจะเข้าร่วมพิธีพระศพสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ณ มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ นครรัฐวาติกัน ในวันเสาร์ที่ 26 เมษายน เวลา 09.45 น. ตามเวลาท้องถิ่น
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับนครรัฐวาติกันได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2512 และดำเนินไปอย่างราบรื่นมาโดยตลอด การส่งผู้แทนพิเศษในครั้งนี้ สะท้อนถึงความสัมพันธ์อันดีและเป็นการแสดงความเคารพอย่างสูงของรัฐบาลและประชาชนชาวไทยต่อสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส
ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีได้มีสารแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งในนามรัฐบาลและประชาชนชาวไทย ต่อการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส พร้อมทั้งยกย่องพระองค์ว่าทรงเป็นต้นแบบแห่งความเมตตา ความกล้าหาญทางศีลธรรม ความอ่อนน้อมถ่อมตน และความมุ่งมั่นในการรักษาสันติภาพ ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจแก่ผู้คนจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นศาสนาใด หรืออยู่มุมโลกใดก็ตาม นายกรัฐมนตรียังได้ย้ำว่าการเสด็จเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการครั้งประวัติศาสตร์ของพระองค์ เมื่อปี 2562 จะยังคงถูกจารึกไว้ในความทรงจำของคนไทยด้วยความซาบซึ้งใจตลอดไป
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส เคยเสด็จเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 20-23 พฤศจิกายน 2562 และได้เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี รวมถึงเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส มีพระนามเดิมว่า ฆอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ (Jorge Mario Bergoglio) ได้รับเลือกเป็นพระสันตะปาปา องค์ที่ 266 แห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิกในปี 2556 นับเป็นสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์แรกจากภูมิภาคลาตินอเมริกา พระองค์ทรงเป็นผู้นำทางศาสนาที่ได้รับการเคารพอย่างสูงจากประชาคมระหว่างประเทศ ทรงอุทิศพระองค์ในการส่งเสริมสันติภาพ ความเมตตา และความเข้าใจอันดีระหว่างศาสนา มีบทบาทสำคัญในการสร้างความปรองดองและส่งเสริมสันติภาพในทั่วทุกมุมโลก ทรงเข้าถึงผู้ด้อยโอกาสและยากจน จนได้รับการขนานพระนามว่าเป็น ‘พระสันตะปาปาของผู้ยากไร้’
นอกจากนี้ ทรงให้ความสำคัญกับประเด็นระดับโลก เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การสนับสนุนสิทธิของผู้อพยพ จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีโดยเฉพาะปัญญาประดิษฐ์ และการยุติสงคราม เป็นต้น
แม้จะทรงเผชิญกับปัญหาสุขภาพ แต่ยังทรงปฏิบัติภารกิจจนถึงช่วงสุดท้าย โดยทรงประทานพรให้แก่ประชาชนที่จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ในช่วงเทศกาลอีสเตอร์ เมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 21 เมษายน เวลา 07.35 น. ตามเวลานครรัฐวาติกัน ณ ที่ประทับในนครรัฐวาติกัน ด้วยพระชนมายุ 88 พรรษา จากพระอาการประชวรด้วยโรคหลอดพระวาโยอักเสบ