Krungthai COMPASS ชี้ Data Center บูมแรงในไทย คาดดึงเม็ดเงินลงทุนกว่า 3.2 แสนล้านบาท หนุนเศรษฐกิจดิจิทัลโตต่อเนื่อง

กรุงเทพฯ – ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS เปิดเผยบทวิเคราะห์ล่าสุด ชี้แนวโน้มการลงทุน Data Center ในประเทศไทยกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด สะท้อนจากการที่บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกและผู้ให้บริการ Data Center ระดับภูมิภาคหลายราย เตรียมขยายการลงทุนในประเทศอย่างมีนัยสำคัญ คาดการณ์ว่าจะก่อให้เกิดเม็ดเงินลงทุนเบื้องต้นสูงถึง 3.2 แสนล้านบาทภายในช่วงปี 2566-2571 ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทยและช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล

นายพชรพจน์ นันทรามาศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า เศรษฐกิจดิจิทัลเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดย Google, TEMASEK และ BAIN & COMPANNY คาดว่า มูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยจะเพิ่มขึ้นจาก 1.6 ล้านล้านบาทในปี 2567 เป็น 3.5 ล้านล้านบาทในปี 2573 หรือเติบโตเฉลี่ยปีละ 13.8% การขยายตัวนี้มาจากการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นในทุกภาคส่วน ทั้ง E-Commerce สื่อออนไลน์ การท่องเที่ยว และการขนส่ง ทำให้ปริมาณข้อมูล (Data Traffic) เพิ่มขึ้นถึง 1.75 เท่าในช่วงปี 2566-2573 ซึ่งล้วนสนับสนุนความต้องการ Data Center เพื่อจัดเก็บและประมวลผลข้อมูล

นายพงษ์ประภา นภาพฤกษ์ชาติ นักวิเคราะห์ ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS เสริมว่า แม้ปัจจุบันไทยยังมี Data Center ค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ซึ่งสะท้อนถึงโอกาสมหาศาลในการดึงดูดการลงทุน โดยคาดว่าขนาด Data Center ของไทยจะเพิ่มขึ้นถึง 13.9 เท่าในช่วงปี 2566-2571

เม็ดเงินลงทุนกว่า 3.2 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลก อาทิ Microsoft, Google, และ TikTok รวมถึงผู้ให้บริการ Data Center ชั้นนำในระดับภูมิภาค เช่น CtrlS, NEXTDC, และ Beijing Haoyang Cloud Data Technology การลงทุนนี้ไม่ได้เป็นเพียงการสร้างอาคาร แต่ยังสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการไทยในระหว่างการพัฒนา Data Center สูงถึง 1.3 แสนล้านบาท โดยเฉพาะธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่ได้รับอานิสงส์มากที่สุด

นอกจากนี้ การลงทุน Data Center ยังส่งผลให้รายได้จากการให้บริการ Data Center โดยตรง เช่น บริการ Public Cloud เพิ่มขึ้นจาก 5.7 หมื่นล้านบาทในปี 2566 เป็น 1.5 แสนล้านบาทในปี 2571 หรือเติบโตเฉลี่ยปีละ 21.3% จากความต้องการใช้เพื่อสนับสนุนการฝึกอบรมโมเดล AI และการพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ และยังเพิ่มรายได้จากการให้บริการติดตั้งระบบ Cloud และบริการสาธารณูปโภคแก่ Data Center อีก 2.1 หมื่นล้านบาทในปี 2566 เป็น 8.2 หมื่นล้านบาทในปี 2571 หรือเติบโตเฉลี่ยปีละ 31.7% โดยธุรกิจโทรคมนาคมและธุรกิจโรงไฟฟ้ามีโอกาสเติบโตโดดเด่นที่สุด ด้วยอัตราเติบโตโดยเฉลี่ยต่อปีสูงถึง 71.6% และ 62.2% ตามลำดับ

Krungthai COMPASS ยังได้เสนอแนะแนวทางเพื่อให้ไทยสามารถดึงดูดการลงทุน Data Center ได้มากขึ้นในอนาคต โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ภาครัฐและเอกชนต้องร่วมกันเพิ่มประสิทธิภาพของโครงข่ายการเชื่อมต่อข้อมูลอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะการเพิ่มสถานีเคเบิลใต้น้ำ และที่สำคัญคือการอนุญาตให้ผู้ให้บริการ Data Center สามารถเข้าถึงและใช้ไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนของภาคเอกชนผ่านระบบโครงข่ายไฟฟ้าของภาครัฐได้โดยไม่คิดค่าระบบบริการ เพื่อลดต้นทุนค่าไฟฟ้าให้แข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *