กสทช. ไฟเขียว ‘ไทยคม’ คว้าสิทธิวงโคจรดาวเทียม 51E และ 142E ผ่านบริษัทลูก เสริมแกร่งกิจการดาวเทียมไทย

กรุงเทพฯ – วันที่ 24 เมษายน 2568 – คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้มีมติสำคัญในการประชุมครั้งที่ 12/2568 เห็นชอบให้ บริษัท ทีซี 51 จำกัด และบริษัท ทีซี 142 จำกัด ซึ่งทั้งสองเป็นบริษัทลูกของ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM ได้รับสิทธิในการใช้วงโคจรดาวเทียมในตำแหน่ง 51E และ 142E ตามลำดับ ถือเป็นการตอกย้ำบทบาทของไทยคมในการบริหารจัดการวงโคจรดาวเทียมที่ประเทศไทยมีสิทธิ และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมดาวเทียมของประเทศ

การอนุมัติในครั้งนี้ ครอบคลุมสิทธิการใช้วงโคจรดาวเทียมตำแหน่ง 51 องศาตะวันออก (51E) และ 142 องศาตะวันออก (142E) โดยบริษัทลูกของไทยคมได้เสนอผลตอบแทนให้แก่รัฐในอัตราร้อยละ 0.25 ของรายได้ ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ได้มีการพิจารณาตามกระบวนการ

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2567 ในการประชุม กสทช. นัดพิเศษ ครั้งที่ 5/2567 คณะกรรมการฯ ได้มีมติเห็นชอบ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ บริษัท ทีซี สเปซ คอนเน็ค จำกัด (TC SPACE CONNECT CO., LTD.) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบริษัทในเครือไทยคม ได้รับสิทธิการใช้งานดาวเทียมวงโคจรตำแหน่ง 50.5 องศาตะวันออก โดยบริษัทดังกล่าวได้เสนอผลตอบแทนให้รัฐในอัตราร้อยละ 0.25 ของรายได้ต่อปีเช่นเดียวกัน

สำหรับการยื่นข้อเสนอวงโคจรตำแหน่ง 51E และ 142E นั้น แตกต่างออกไป โดย บริษัท ทีซี สเปซ คอนเน็ค ไม่ได้เป็นผู้ยื่นหลักประกันและดำเนินการโดยตรง แต่ได้ระบุเงื่อนไขว่าจะให้บริษัทใหม่ของไทยคมเป็นผู้เข้ามาดำเนินการแทน ทำให้ กสทช. พิจารณาว่าควรให้สิทธิกับบริษัทที่ยื่นเข้ามาดำเนินการโดยตรง ซึ่งในท้ายที่สุดก็คือ บริษัท ทีซี 51 จำกัด และบริษัท ทีซี 142 จำกัด ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อการนี้โดยเฉพาะ

นายสมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ กรรมการ กสทช. ด้านกิจการโทรคมนาคม ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า กสทช. ยังไม่มีประกาศรองรับการโอนสิทธิการใช้งานดาวเทียมไปให้บริษัทอื่น ในลักษณะเดียวกับการโอนคลื่นความถี่ของผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ ดังนั้น การที่บริษัทลูกของไทยคมทั้งสองแห่งยื่นเข้ามาดำเนินการโดยตรงสำหรับวงโคจร 51E และ 142E จึงเป็นแนวทางที่ถูกต้องตามข้อกำหนด และนำมาซึ่งการอนุมัติในที่สุด

การที่บริษัทในเครือไทยคมสามารถคว้าสิทธิการใช้วงโคจรดาวเทียมได้ครบทั้ง 3 ตำแหน่งที่เปิดประมูล (50.5E, 51E, และ 142E) ถือเป็นพัฒนาการที่สำคัญที่จะช่วยให้ไทยคมสามารถบริหารจัดการทรัพยากรวงโคจรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รองรับการให้บริการดาวเทียมทั้งในและต่างประเทศ เสริมศักยภาพการแข่งขัน และสนับสนุนนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทยในระยะยาว

ความสำเร็จในการได้รับสิทธิวงโคจรเหล่านี้ คาดว่าจะส่งผลดีต่อผลประกอบการของไทยคมในอนาคต จากความสามารถในการขยายขอบเขตการให้บริการและสร้างรายได้ใหม่ๆ จากการใช้ประโยชน์จากตำแหน่งวงโคจรดาวเทียมที่ได้รับอนุญาต

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *