จีนปัดข่าวลือ ‘คุยลดภาษี’ กับสหรัฐฯ ย้ำ! ต้องยกเลิกภาษีทั้งหมดก่อนเจรจา
กรุงปักกิ่ง – ทางการจีนได้ออกมาปฏิเสธรายงานข่าวที่อ้างว่ามีการเจรจาอย่างต่อเนื่องกับสหรัฐอเมริกาเพื่อหาทางยุติสงครามการค้า พร้อมทั้งยืนยันจุดยืนเดิมว่า สหรัฐฯ ควรจะเป็นฝ่ายยกเลิกมาตรการภาษีทั้งหมดที่เรียกเก็บกับสินค้าจีนเสียก่อน หากต้องการที่จะกลับมาเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาทางการค้าระหว่างสองประเทศ
การเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่สื่อมวลชนในสหรัฐฯ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจพิจารณาปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนลง โดยอาจเหลือประมาณร้อยละ 50 ถึง 65 จากเดิมที่เคยกำหนดไว้ที่ขั้นต่ำถึงร้อยละ 145 ซึ่งถูกมองว่าเป็นสัญญาณเชิงบวกที่อาจนำไปสู่การผ่อนคลายความตึงเครียดทางการค้า
นายเหอ หยาตง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน ได้กล่าวในการแถลงข่าวว่า จนถึงขณะนี้ ทางการจีนยังไม่ได้รับการติดต่อหรือมีการหารือใดๆ กับฝ่ายสหรัฐฯ เกี่ยวกับปัญหาทางการค้าระหว่างกัน ดังนั้น ข่าวที่ว่ามีการหารืออย่างต่อเนื่องนั้นจึงไม่เป็นความจริง นายเหอ ย้ำชัดเจนว่า หากสหรัฐฯ ต้องการแก้ไขปัญหาการค้าจริง ก็ควรจะเป็นฝ่ายริเริ่มยกเลิกมาตรการภาษีที่บังคับใช้กับสินค้าจีนทั้งหมดด้วยตนเอง โดยเปรียบเทียบว่า "ผู้ที่ผูกเงื่อนย่อมต้องเป็นผู้ที่แก้เงื่อนเอง" ซึ่งสื่อถึงว่าสหรัฐฯ เป็นผู้เริ่มสงครามการค้า จึงควรเป็นผู้ที่ยุติมันก่อน
ด้านนายกั๋ว เจียกุน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้เสริมว่า กระแสข่าวที่เผยแพร่ออกมาว่าจีนและสหรัฐฯ มีการเจรจาหรือบรรลุข้อตกลงใดๆ แล้วนั้น ถือเป็น "ข่าวปลอม" หรือเฟกนิวส์อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นการยืนยันในทิศทางเดียวกับกระทรวงพาณิชย์จีน
นอกจากนี้ ทางการจีนยังเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ รับฟังความคิดเห็นที่มีเหตุผลจากทั้งภาคส่วนภายในประเทศสหรัฐฯ เอง และจากประชาคมนานาชาติ ซึ่งหลายฝ่ายต่างกังวลถึงผลกระทบจากสงครามการค้าต่อเศรษฐกิจโลก
ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเงิน นายพัน กงเชียง ผู้ว่าการธนาคารกลางของจีน (People’s Bank of China – PBOC) ได้กล่าวย้ำถึงการสนับสนุนของจีนต่อระเบียบข้อบังคับของการค้าเสรี และระบบการค้าแบบพหุภาคี ซึ่งสะท้อนถึงท่าทีของจีนที่ต้องการให้การค้าโลกดำเนินไปภายใต้กรอบกติการะหว่างประเทศ มากกว่าการใช้มาตรการฝ่ายเดียว
สถานการณ์ล่าสุดนี้แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างทางความคิดที่ชัดเจนระหว่างจีนและสหรัฐฯ เกี่ยวกับแนวทางในการแก้ไขปัญหาการค้า โดยจีนยังคงยืนกรานในเงื่อนไขที่ให้สหรัฐฯ ยุติการใช้ภาษีนำเข้าฝ่ายเดียวก่อน จึงจะพิจารณาการเจรจาอย่างจริงจัง ทำให้ความหวังในการยุติสงครามการค้าในเร็ววันยังคงเป็นเรื่องที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป