ปวดท้อง-นิ้วงอไม่ได้! หญิงไอร์แลนด์ลองปรึกษา ChatGPT เล่นๆ เจอคำตอบที่ ‘แพทย์พลาด’ ดันพบ ‘มะเร็ง’

ไอร์แลนด์/สหรัฐอเมริกา – ในยุคที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น เรื่องราวของหญิงชาวไอร์แลนด์เหนือรายหนึ่งที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวาง เมื่อเธอใช้เครื่องมือ AI อย่าง ChatGPT ในการค้นหาคำตอบเกี่ยวกับอาการป่วยของตัวเอง และนำไปสู่การตรวจพบโรคร้ายที่แพทย์วินิจฉัยพลาดในตอนแรก

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเรื่องราวของ ลอเรน แบนนอน คุณแม่ลูกสองวัย 40 ปี ซึ่งเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติของร่างกายตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2024 เธอบอกว่า นิ้วก้อยของเธอไม่สามารถงอได้ตามปกติ ทั้งในตอนกลางวันและกลางคืน ซึ่งสร้างความกังวลใจเป็นอย่างมาก

ลอเรนตัดสินใจไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ แต่ผลการตรวจเบื้องต้นกลับเป็นลบ แพทย์สันนิษฐานว่าอาการดังกล่าวอาจเป็นเพียงโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ ซึ่งเป็นการวินิจฉัยแรกที่ไม่สามารถอธิบายอาการทั้งหมดของเธอได้

หลังจากนั้นไม่นาน อาการของลอเรนกลับทรุดหนักลง เธอมเริ่มมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง และน้ำหนักตัวก็ลดลงไปอย่างมาก เมื่อกลับไปพบแพทย์อีกครั้ง แพทย์กลับวินิจฉัยว่าเป็นเพียงโรคกรดไหลย้อนธรรมดา ซึ่งลอเรนรู้สึกว่าคำตอบนี้ยังไม่น่าจะถูกต้องกับสิ่งที่เธอกำลังเผชิญอยู่

ด้วยความไม่สบายใจและต้องการทราบสาเหตุที่แท้จริงของอาการป่วย เธอจึงตัดสินใจลองใช้ ChatGPT ซึ่งเป็นโมเดลภาษา AI ยอดนิยม เพื่ออธิบายอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับร่างกายอย่างละเอียด และคำตอบที่ได้รับจาก ChatGPT ก็ทำให้เธอประหลาดใจอย่างมาก โดย AI ตัวนี้แนะนำว่าอาการของเธอมีความเป็นไปได้ที่จะเกี่ยวข้องกับต่อมไทรอยด์ โดยเฉพาะโรคไทรอยด์อักเสบฮาชิโมโต (Hashimoto’s thyroiditis) ซึ่งเป็นโรคไทรอยด์อักเสบเรื้อรังชนิดหนึ่ง

แม้ว่าแพทย์ที่เธอไปพบในครั้งต่อมาจะยังมีท่าทีสงวนท่าทีและไม่ให้น้ำหนักกับคำแนะนำจาก AI มากนัก แต่ด้วยความเชื่อมั่นในสัญชาตญาณของตัวเองและคำแนะนำจาก ChatGPT ลอเรนจึงยืนกรานขอให้แพทย์ทำการตรวจวินิจฉัยเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์อย่างละเอียด

ผลการตรวจต่อมไทรอยด์ปรากฏว่า พบก้อนเนื้อขนาดเล็กจำนวน 2 ก้อนบริเวณคอและต่อมไทรอยด์ และหลังจากการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมอย่างละเอียดในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน แพทย์ก็ยืนยันว่า ลอเรน แบนนอน ป่วยเป็น ‘มะเร็ง’ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นมะเร็งที่เกี่ยวข้องกับต่อมไทรอยด์นั่นเอง การวินิจฉัยนี้พิสูจน์ว่าคำแนะนำเบื้องต้นจาก ChatGPT มีความถูกต้องในระดับหนึ่งและได้นำพาเธอไปสู่การตรวจพบโรคร้ายนี้ได้ทันท่วงที

เรื่องนี้ตอกย้ำถึงความซับซ้อนของความสัมพันธ์ระหว่างโรคฮาชิโมโตะและมะเร็ง ซึ่งยังคงเป็นประเด็นที่ทางการแพทย์กำลังศึกษา แม้ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนจะเชื่อว่าอาจมีความเชื่อมโยงกัน

ลอเรนกล่าวด้วยความรู้สึกขอบคุณว่า หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจาก ChatGPT เธออาจไม่รู้เลยว่าตัวเองเป็นมะเร็ง เธอบอกว่ารู้สึกผิดหวังกับการตรวจวินิจฉัยเบื้องต้นของแพทย์บางคน ที่ดูเหมือนจะรีบวินิจฉัยและจ่ายยาโดยไม่ได้ค้นหาสาเหตุที่แท้จริง

หลังจากได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง ลอเรนได้เข้ารับการผ่าตัดในเดือนมกราคม ปี 2025 เพื่อนำต่อมน้ำเหลือง 2 ต่อมที่เชื่อมกับไทรอยด์และคอออก การผ่าตัดประสบความสำเร็จด้วยดี แต่เธอจำเป็นต้องได้รับการเฝ้าระวังอาการอย่างต่อเนื่องในอนาคตเพื่อให้แน่ใจว่ามะเร็งจะไม่กลับมาอีก

จากประสบการณ์ของเธอ ลอเรน แบนนอน ได้ฝากคำเตือนถึงประชาชนทั่วไปว่า แม้ว่า AI อย่าง ChatGPT อาจเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการให้ข้อมูลเบื้องต้น แต่ก็ควรใช้ด้วยความ “ระมัดระวัง” และที่สำคัญที่สุดคือ หากพบอาการผิดปกติใดๆ กับร่างกาย ควรรีบไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและคำแนะนำที่ถูกต้องเสมอ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *