กนอ. เปิดตัว ‘อารยะ ดิ อีสเทิร์น เกตเวย์’ นิคมฯ ใกล้กรุง ดึงดูดทุนไฮเทค สร้างงาน-กระตุ้นเศรษฐกิจ
สมุทรปราการ – การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เดินหน้าดึงดูดการลงทุนภาคอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ร่วมกับ บริษัท อารยะ แลนด์ ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด เปิดตัว นิคมอุตสาหกรรม “อารยะ ดิ อีสเทิร์น เกตเวย์” อย่างเป็นทางการ ณ บริเวณกิโลเมตรที่ 32 ถนนบางนา-ตราด จังหวัดสมุทรปราการ โดยโครงการนี้ถือเป็นนิคมอุตสาหกรรมแห่งที่ 73 ภายใต้การกำกับดูแลของ กนอ. ครอบคลุมพื้นที่รวม 1,891 ไร่.
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ประธานกรรมการ กนอ. เปิดเผยว่า การพัฒนานิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่นี้ มีเป้าหมายสำคัญคือ การสร้างระบบนิเวศอุตสาหกรรมนวัตกรรมที่ยั่งยืน เพื่อรองรับการลงทุนเมกะโปรเจกต์ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงอุตสาหกรรมที่ต้องการผลักดันภาคอุตสาหกรรมให้มีส่วนช่วยเพิ่มอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ GDP ของประเทศได้อีก 1% หรือคิดเป็นมูลค่าเพิ่มกว่า 180,000 ล้านบาท.
ด้าน นายสุเมธ ตั้งประเสริฐ กรรมการ กนอ. รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการ กนอ. กล่าวเสริมว่า นิคมอุตสาหกรรมอารยะฯ เป็นโครงการร่วมทุนระหว่างผู้พัฒนาระบบสาธารณูปโภค 3 บริษัทชั้นนำ ได้แก่ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) และบริษัท นิคมอุตสาหกรรมเอเซีย จำกัด โดยทั้งหมดมีวิสัยทัศน์ร่วมกันในการพัฒนาระบบนิเวศเมืองอุตสาหกรรมและนวัตกรรมที่ครบวงจร โรงงานที่จะเข้ามาลงทุนในพื้นที่นี้จะได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีและการลงทุนตามนโยบายส่งเสริมของภาครัฐอย่างเต็มที่.
สำหรับศักยภาพของทำเล นิคมอุตสาหกรรมอารยะฯ ตั้งอยู่ในพื้นที่สีม่วงขนาดใหญ่ที่ยังคงมีศักยภาพและไม่ไกลจากกรุงเทพมหานคร มีความพร้อมทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐานและการเชื่อมต่อกับระบบคมนาคมขนส่ง โดยเฉพาะท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่สามารถเชื่อมต่อไปยังมอเตอร์เวย์เพื่อเข้าสู่พื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ได้อย่างสะดวก คาดว่าโครงการนี้จะสามารถสร้างการจ้างงานได้สูงถึง 14,560 อัตรา และก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ประมาณ 52,000 ล้านบาท. กนอ. ยังมีแผนการพัฒนาพื้นที่รองรับการลงทุนในพื้นที่ EEC อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้ขยายพื้นที่ EEC เพิ่มเติมอีก 1 จังหวัด รวมเป็น 4 จังหวัด คือ ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา และปราจีนบุรี และตั้งเป้าขาย/ให้เช่าพื้นที่นิคมฯ ทั่วประเทศในปีนี้ให้ได้ 50,000 ไร่.
นางสาวกมลกาญจน์ คงคาทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท อารยะ แลนด์ ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด ในฐานะผู้พัฒนาโครงการ กล่าวถึงแนวคิด “Industrial Tech Ecosystem” ที่ใช้ในการพัฒนาโครงการนี้ว่า เป็นรูปแบบนิคมอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่ยังใหม่สำหรับประเทศไทย โดยเน้นการนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้ พร้อมระบบโลจิสติกส์แบบครบวงจร ปัจจุบันโครงการอยู่ระหว่างการจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปลายปี 2567 นี้.
แม้โครงการจะยังอยู่ในขั้นตอน EIA แต่ได้รับความสนใจจากบริษัทชั้นนำที่ต้องการขยายฐานการผลิตและลงทุนในพื้นที่อุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เช่น เซมิคอนดักเตอร์, อิเล็กทรอนิกส์, ยานยนต์ไฟฟ้า (EV), ยาและเวชภัณฑ์, โลจิสติกส์ และดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งมีทั้งบริษัทข้ามชาติจากจีน ไต้หวัน ยุโรป และบริษัทต่างชาติที่ลงทุนในไทยอยู่แล้วและต้องการขยายพื้นที่เพิ่มเติม คาดว่าจะเริ่มดำเนินการโอนที่ดินและพัฒนาพื้นที่ได้ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2568 เป็นต้นไป.