ปราจีนบุรี – คดีสลดเด็กชายวัย 4 ขวบเสียชีวิตปริศนาในกระท่อมที่อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี คลี่คลายแล้ว หลังตำรวจเร่งสืบสวนสอบสวน ล่าสุด หนุ่มวัย 18 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของผู้ดูแลเด็ก ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือทำร้ายน้องเก้าจนเสียชีวิต สาเหตุมาจากความหึงหวงกลัวเด็กจะแย่งความรักจากพ่อแม่ไป

จากเหตุการณ์ เด็กชายวัย 4 ขวบ ที่ชื่อเล่นว่า "น้องเก้า" เสียชีวิตอย่างน่าสงสัย ภายในกระท่อมแห่งหนึ่งในพื้นที่ อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี สภาพศพของน้องเก้ามีร่องรอยเขียวช้ำตามร่างกายและลำตัว ใบหน้าบวมปูดผิดรูป ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ระเบาะไผ่ ต้องเร่งเข้าตรวจสอบและสอบปากคำบุคคลที่อยู่ในบ้าน รวมถึงเก็บตัวอย่าง DNA เพื่อหาหลักฐานเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ในช่วงแรก การสืบสวนได้มุ่งเป้าไปที่ นายรัตน์ ซึ่งเป็นผู้ดูแลน้องเก้า และเป็นหนึ่งในบุคคลที่อยู่ในบ้าน โดยตำรวจได้นำตัวนายรัตน์มาสอบปากคำตลอดทั้งคืน และตรวจพบสารเสพติดในร่างกาย จึงแจ้งข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษ พร้อมสั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข้อมูลเพิ่มเติม

ต่อมา พล.ต.ต.เกียรติศักดิ์ สระทองออย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี พร้อมคณะ ได้เดินทางมายัง สภ.ระเบาะไผ่ เพื่อประชุมติดตามความคืบหน้าของคดีอย่างใกล้ชิด และกำชับให้เร่งดำเนินการสอบสวนและสืบสวนเพื่อคลี่คลายปมสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง

พล.ต.ต.เกียรติศักดิ์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า ได้มีการส่งศพของน้องเก้าไปตรวจชันสูตรโดยละเอียดที่นิติเวช เพื่อยืนยันสาเหตุการตายที่ชัดเจน ขณะที่ผลการตรวจร่างกายภายนอกเบื้องต้นพบร่องรอยคล้ายถูกทารุณ มีรอยเหมือนไม้เรียวและรอยฟกช้ำหลายจุดบริเวณลำตัวและใบหน้า จึงสันนิษฐานว่าเด็กน่าจะถูกทำร้าย

นอกจากนี้ ยังพบข้อมูลว่า ก่อนวันเกิดเหตุ น้องเก้ามีอาการท้องเสีย แต่ไม่มีใครพาไปหาหมอหรือแม่ ซึ่งเป็นลักษณะของการปล่อยปละละเลย แต่ต้องรอผลชันสูตรทางการแพทย์มายืนยันว่าอาการป่วยนี้เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตโดยตรงหรือไม่

ความคืบหน้าสำคัญของคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา เมื่อนายต้อง อายุ 18 ปี ลูกชายของนายรัตน์ ได้ยอมรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเป็นผู้ลงมือทำร้ายร่างกายน้องเก้าจริง โดยกระทำในช่วงเวลาที่ไม่มีใครอยู่บ้าน ก่อนจะทำทีเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นายต้อง ให้การว่า มีปมสาเหตุมาจากความหึงหวง โดยคิดว่าน้องเก้าจะมาแย่งความรักจากพ่อและแม่ของตนไป จึงอาศัยช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่คนในบ้านอาจเผลอ ทำร้ายร่างกายน้องเก้าหลายครั้ง จนกระทั่งน้องเก้าเสียชีวิต

ในช่วงสายที่ผ่านมา (22 เม.ย. 68) ตำรวจได้นำตัวนายต้องไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในจุดเกิดเหตุ บริเวณรอบบ้านพัก 3 จุด ท่ามกลางการอารักขาของเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบ ขณะทำแผน นายต้องมีท่าทีเงียบขรึมไม่พูดจาใดๆ

บรรยากาศขณะทำแผนประกอบคำรับสารภาพเต็มไปด้วยความตึงเครียด มีประชาชนและญาติของน้องเก้าเกือบ 20 คน มาเฝ้าดูด้วยความโกรธแค้น และพยายามจะบุกเข้าไปทำร้ายนายต้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าเจรจาและกันไม่ให้เกิดความวุ่นวาย ก่อนจะรีบนำตัวนายต้องออกจากพื้นที่ทำแผนทันที

น้าน้องเก้า หนึ่งในญาติที่มาดูการทำแผน เปิดเผยด้วยความรู้สึกแค้นเคืองต่อการกระทำของผู้ต้องหา ยืนยันว่าตนเองและคนอื่นๆ ในบ้านหลายคนเชื่อมาตลอดว่านายต้องคือผู้ลงมือทำร้ายน้องเก้าจนเสียชีวิต แม้จะเคยมีการพยายามโยนความผิดให้กับแม่ของน้องเก้า ซึ่งมีปัญหาด้านการสื่อสาร แต่ญาติก็ไม่เชื่อว่าแม่จะทำร้ายลูกชายตัวเอง

คดีนี้จึงเป็นการปิดฉากการค้นหาผู้กระทำผิดในคดีสะเทือนใจ โดยผู้ก่อเหตุคือหนุ่มวัยเพียง 18 ปี ด้วยปมเหตุที่ไม่คาดคิด ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัวและญาติผู้สูญเสีย