แพทย์ตั้งคำถามสำคัญ! พนักงานรถไฟเสียชีวิตกะทันหันบนขบวน ถามหา AED ทำไมเจ้าหน้าที่ขาดทักษะ CPR?
เกิดเหตุการณ์เศร้าสลดบนขบวนรถไฟสายใต้ เมื่อพนักงานรถนอนเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ แพทย์หญิงผู้โดยสารรายหนึ่งได้เผยประสบการณ์สุดบีบหัวใจในการพยายามยื้อชีวิตผู้ป่วย พร้อมตั้งคำถามสำคัญถึงความพร้อมของระบบการแพทย์ฉุกเฉินบนขบวนรถไฟของไทย
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบนขบวนรถไฟด่วนพิเศษที่ 86 เส้นทางนครศรีธรรมราช-กรุงเทพฯ ในช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา พนักงานรถนอนรายหนึ่งเกิดอาการแน่นหน้าอกและหมดสติอย่างกะทันหันขณะปฏิบัติงาน
คุณหมอไพพรรณ ซึ่งเป็นแพทย์ผู้โดยสารที่อยู่บนขบวน ได้โพสต์เล่าถึงเหตุการณ์นี้ผ่านทางเพจ "คลินิกสูตินรีเวชหมอไพพรรณ" ว่า ขณะเดินทางจากชุมพรไปยังกรุงเทพฯ ในช่วงเวลาประมาณตีสามถึงเกือบตีสี่ ได้ยินเสียงผู้โดยสารร้องขอความช่วยเหลือว่ามีเจ้าหน้าที่หมดสติ
เมื่อเข้าไปถึงพบว่าพนักงานคนดังกล่าวไม่หายใจ ไม่มีชีพจร และหัวใจหยุดเต้น คุณหมอจึงตัดสินใจเริ่มทำ CPR (การปั๊มหัวใจเพื่อกู้ชีพ) ทันที โดยมีผู้โดยสารอีก 2 ท่านเข้ามาร่วมช่วย คือท่านหนึ่งช่วยจับเวลา อีกท่านช่วยกดหน้าอกร่วมกับคุณหมอ
ในส่วนของเจ้าหน้าที่รถไฟ แม้จะไม่ได้เข้าช่วยทำ CPR โดยตรง แต่ก็ได้ดำเนินการแจ้งไปยังศูนย์การแพทย์ฉุกเฉิน 1669 อย่างรวดเร็ว และประสานงานให้ขบวนรถไฟหยุด เพื่อรอทีมกู้ชีพจากจังหวัดราชบุรีเข้ามาช่วยเหลือ
คุณหมอและผู้โดยสารทั้งสองท่านได้ทำการปั๊มหัวใจอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานกว่า 30 นาที จนกระทั่งทีมกู้ชีพมาถึง แต่เมื่อทำการช่วยเหลือเต็มที่แล้ว ผู้ป่วยก็ยังไม่ตอบสนอง และสุดท้ายได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
จากเหตุการณ์นี้ คุณหมอไพพรรณ ได้แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทั้งตั้งคำถามสำคัญในฐานะแพทย์และพลเมืองผู้ที่ได้เห็นเหตุการณ์ ว่า:
- ทำไมขบวนรถไฟโดยสารระยะไกล ซึ่งมีผู้คนจำนวนมากใช้บริการ กลับไม่มีเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ (AED) ติดตั้งไว้เลย?
- ทำไมเจ้าหน้าที่รถไฟซึ่งเป็นผู้ที่ใกล้ชิดและต้องรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินบนขบวน กลับยังไม่ได้รับการฝึกอบรมการทำ CPR อย่างทั่วถึง?
- และในนาทีวิกฤตที่ชีวิตกำลังจะจากไป เหตุใดจึงมีเพียงผู้โดยสารธรรมดาเพียงสองท่านเท่านั้นที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ทั้งที่น่าจะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ซึ่งควรได้รับการฝึกฝนมาเพื่อสถานการณ์เช่นนี้?
คุณหมอยังเน้นย้ำว่า การทำ CPR ไม่ได้เป็นเพียงหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์เท่านั้น แต่เป็นหน้าที่ของเพื่อนมนุษย์ทุกคนที่อาจต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ฉุกเฉินเช่นนี้ และเชิญชวนให้ประชาชนทั่วไปเรียนรู้ทักษะการกู้ชีพขั้นพื้นฐาน พร้อมทิ้งท้ายด้วยคำแนะนำการทำ CPR เบื้องต้น:
- กดหน้าอกตรงกลาง ระหว่างราวนม อัตราเร็ว 100–120 ครั้งต่อนาที ลึก 5–6 เซนติเมตร
- โทรแจ้ง 1669 ศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินทันที
- ใช้เครื่อง AED หากมีและรู้วิธีใช้
เหตุการณ์นี้ถือเป็นอุทาหรณ์ที่สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของความพร้อมด้านการแพทย์ฉุกเฉินในระบบขนส่งสาธารณะ และความจำเป็นในการฝึกอบรมทักษะกู้ชีพขั้นพื้นฐานให้กับบุคลากรผู้ปฏิบัติงาน เพื่อเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตของผู้ป่วยในสถานการณ์วิกฤต