สตูล, 23 เมษายน 2568 – ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 3 (ศรชล.ภาค 3) โดยการสั่งการของ พลเรือโท สุวัจ ดอนสกุล ผู้อำนวยการ ศรชล.ภาค 3 ได้ปฏิบัติการเข้าจับกุมเรือประมงต่างชาติ ซึ่งคาดว่าเป็นสัญชาติอินโดนีเซีย ขณะลักลอบเข้ามาทำประมงในน่านน้ำไทย

ปฏิบัติการดังกล่าวมีขึ้นเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2568 ภายหลังจากที่ ศรชล.ภาค 3 ได้รับรายงานจากศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้าออกจังหวัดสตูล (ศคท.จว.สตูล) เกี่ยวกับเรือประมงต้องสงสัยที่ปรากฏตัวในบริเวณน่านน้ำไทย โดย พลเรือโท สุวัจ ดอนสกุล ได้สั่งการให้ นาวาเอก แสนย์ไท บัวเนียม รองผู้อำนวยการ ศรชล.จังหวัดสตูล ประสานงานกับหน่วยปฏิบัติการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งที่ 491 (นป.สอ.รฝ.491) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกทำการลาดตระเวนและตรวจสอบ

จุดที่ตรวจพบเรือประมงเป้าหมายอยู่บริเวณทิศตะวันตกของเกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล ห่างจากฝั่งออกไปประมาณ 13.75 ไมล์ทะเล ซึ่งอยู่ในเขตอำนาจและอธิปไตยของประเทศไทย เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการได้นำเรือยางและเรือปฏิบัติการความเร็วสูง “ศรชล.4006” เข้าทำการควบคุมเรือประมงลำดังกล่าวไว้ได้

จากการเข้าตรวจสอบ พบว่าเรือลำนี้เป็นเรือประมงสัญชาติอินโดนีเซีย และมีลูกเรือรวมทั้งสิ้น 5 คน ซึ่งทั้งหมดเป็นชาวอินโดนีเซีย ประกอบด้วย ไต๋เรือ 1 คน และลูกเรืออีก 4 คน ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เนื่องจากการลักลอบเข้ามาทำประมงในเขตเศรษฐกิจจำเพาะและน่านน้ำภายในของประเทศไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต

ภายหลังการจับกุม เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คน พร้อมกับควบคุมเรือประมงต่างชาติลำดังกล่าว เข้าเทียบท่าที่เกาะหลีเป๊ะ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป โดยเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งหมดอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อสอบสวนและดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.การประมง และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

ในโอกาสนี้ ศรชล.ภาค 3 ได้กล่าวขอบคุณเครือข่ายเรือประมงในพื้นที่จังหวัดสตูลเป็นอย่างสูง ที่ได้ให้ความร่วมมือเป็นหูเป็นตา สังเกตการณ์ และแจ้งเบาะแสของเรือประมงต่างชาติที่เข้ามามีพฤติกรรมน่าสงสัยในน่านน้ำไทย การแจ้งข้อมูลอย่างรวดเร็วและทันท่วงทีของภาคประชาชน ถือเป็นกลไกสำคัญในการช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติภารกิจปกป้องอธิปไตยและรักษาความมั่นคงทางทะเล รวมถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลอันมีค่าของชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ศรชล.ภาค 3 ขอประชาสัมพันธ์ถึงพี่น้องประชาชน และชาวประมง หากพบเห็นเหตุการณ์ผิดปกติ หรือเหตุฉุกเฉินทางทะเล สามารถแจ้งข้อมูล หรือขอความช่วยเหลือ ได้ที่สายด่วน 1465 ของศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 3 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.