ปมร้อน! “ณพ ณรงค์เดช” ยื่น กองปราบฯ ล่า ‘ไอ้โม่ง’ เสนอสินบน 100 กก. ปมคดีอายัดเงินปันผลหุ้น เชื่อมโยงสอบวินัย 2 ตุลาการ

กรุงเทพฯ – วันที่ 23 เมษายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าในกรณีพิพาทและข้อร้องเรียนที่เกี่ยวข้องกับแวดวงศาลและนักธุรกิจชื่อดัง ล่าสุด นายณพ ณรงค์เดช นักธุรกิจ เตรียมเดินหน้าแจ้งความดำเนินคดีเพื่อคลี่คลายปมเงินสินบนปริศนา โดยมีรายงานว่า นายณพ ได้มอบหมายให้ทีมทนายความเข้าพบพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 1 กองปราบปราม ในเช้าตรู่วันพรุ่งนี้ (24 เมษายน 2568) เวลา 08.00 น. เพื่อให้กองปราบฯ เข้ามาดำเนินการสืบสวนสอบสวนและดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง.

การเข้าแจ้งความครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากกรณีที่มีข่าวการเสนอผลประโยชน์จำนวนมหาศาล หรือที่ถูกกล่าวถึงในวงกว้างว่าเป็นการเสนอเงินสูงถึง “100 กิโลกรัม” ซึ่งถูกระบุว่ามีความเชื่อมโยงไปถึงผู้บริหารศาลบางราย และเกี่ยวกับกระบวนการพิจารณาคดี.

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ นายณพ ณรงค์เดช เคยได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ คณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) เกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้บริหารศาลระดับสูง 2 ท่าน ที่นายณพระบุว่ามีความสนิทสนมและใกล้ชิดกับคู่กรณีของตนเองอย่างผิดปกติ ซึ่งการร้องเรียนดังกล่าว นำไปสู่การที่ ก.ต. มีมติให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยร้ายแรงกับตุลาการทั้งสองท่าน ซึ่งอยู่ในระดับอธิบดีศาลและรองอธิบดีศาล.

ต่อมา ผลการพิจารณาของ ก.ต. ได้มีมติให้พักราชการตุลาการระดับอธิบดี ส่วนในรายของตุลาการระดับรองอธิบดีนั้น ก.ต. ยังไม่มีคำสั่งให้พักราชการ เนื่องจากตุลาการท่านดังกล่าวได้มีการยื่นคำร้องขอความเป็นธรรม และมีการกล่าวอ้างในคำร้องว่า ตนเองเคยถูกเสนอค่าตอบแทนจำนวนมากถึง “100 กิโลกรัม” ซึ่งเกี่ยวข้องกับการออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวเพื่ออายัดเงินปันผลหุ้นของนายณพ มูลค่านับพันล้านบาท แต่ตนเองได้ปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าวไป.

จากประเด็นที่ตุลาการท่านดังกล่าวยื่นอ้างว่ามีการเสนอสินบนนี้เอง ทำให้นายณพ ณรงค์เดช เล็งเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องให้หน่วยงานที่มีอำนาจสืบสวนสอบสวนทางอาญาอย่าง กองปราบปราม เข้ามาตรวจสอบและเร่งรัดติดตามหาตัว “คนจ่ายสินบน” หรือผู้ที่อยู่เบื้องหลังการเสนอผลประโยชน์มหาศาลนี้ เพื่อนำตัวมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม.

นายณพและทีมทนายความ มองว่า การอายัดเงินปันผลหุ้นในครั้งนี้ ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสถานะทางธุรกิจและการเงินของนายณพเอง ดังนั้น การคลี่คลายปมเรื่องสินบนและหาตัวผู้กระทำผิด จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้เกิดความกระจ่างในคดี และเป็นการรักษาความโปร่งใสในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเรื่องนี้ได้รับความสนใจจากสาธารณชนเป็นอย่างมาก.

การที่นายณพจะเข้าแจ้งความต่อกองปราบปรามในวันพรุ่งนี้ จึงเป็นก้าวสำคัญในการขยายผลการสืบสวนจากประเด็นที่เกิดขึ้นในชั้นการพิจารณาของ ก.ต. ไปสู่การดำเนินคดีอาญา เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดจริงในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการเสนอหรือให้สินบน ซึ่งถือเป็นการกระทำที่บ่อนทำลายระบบยุติธรรมอย่างร้ายแรง.