ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.ก.ไซเบอร์ใหม่ เพิ่มโทษมิจฉาชีพ-เร่งคืนเงินผู้เสียหาย
เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เสนอ ซึ่งผ่านการตรวจพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว
ร่าง พ.ร.ก.นี้มีสาระสำคัญในการเพิ่มมาตรการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์และมิจฉาชีพ โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ทันทีหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา
มาตรการสำคัญในร่าง พ.ร.ก.
- ให้อำนาจเจ้าหน้าที่สั่งระงับบริการโทรคมนาคมเมื่อพบการใช้เพื่อกระทำความผิด
- เพิ่มประสิทธิภาพการยึดและคืนเงินให้ผู้เสียหาย
- เพิ่มโทษสถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรม
- จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
นายจิรายุ กล่าวว่า มีการแก้ไขเพิ่มเติมเรื่องการคืนเงินผู้เสียหาย โดยกำหนดหลักเกณฑ์ชัดเจนในกฎกระทรวง และกำหนดว่าเงินที่ไม่มีผู้มาเรียกร้องภายใน 10 ปีจะโอนเข้าสังกัดกองทุนป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
นอกจากนี้ยังเพิ่มบทกำหนดโทษสำหรับสถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยกำหนดโทษปรับสำหรับนิติบุคคล และโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทสำหรับผู้แทนนิติบุคคล
ที่ประชุมครม.ยังเห็นชอบร่าง พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่…) ที่กำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจจากต่างประเทศที่ให้บริการคนไทยต้องขออนุญาตประกอบธุรกิจในประเทศไทย