อากาศร้อนจัดดันไฟฟ้าพีกทะลุ 3.4 หมื่นเมกะวัตต์ ทำลายสถิติเดือนเมษายน กกพ. เผยคนใช้แอร์คลายร้อนสาเหตุหลัก

กรุงเทพฯ – สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด หรือ ค่าพีก (Peak) ในระบบของประเทศไทย ซึ่งได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี และล่าสุดได้ทำลายสถิติพีกรายเดือนของเดือนเมษายนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

รายงานจาก กกพ. โดยอ้างอิงข้อมูลจาก 3 การไฟฟ้าหลัก ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.), การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ระบุว่า เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2568 เวลา 20.47 น. ประเทศไทยมีความต้องการใช้ไฟฟ้าพุ่งขึ้นสูงสุดอยู่ที่ 34,130.1 เมกะวัตต์

ค่าพีกดังกล่าว ถือว่าสูงกว่าสถิติพีกของเดือนมีนาคม 2568 ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2568 ที่ระดับ 33,658.3 เมกะวัตต์ และเป็นค่าพีกที่สูงที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในเดือนเมษายน

สาเหตุหลักที่ทำให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าพุ่งสูงขึ้นในครั้งนี้ มาจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดและร้อนอบอ้าวสะสมทั่วประเทศ หลังช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยกรมอุตุนิยมวิทยาได้รายงานว่าในช่วงวันที่ 21-22 เมษายน 2568 อุณหภูมิสูงสุดในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง สูงถึง 40 องศาเซลเซียส ทำให้ประชาชนจำนวนมากต้องเปิดเครื่องปรับอากาศเพื่อคลายความร้อน ส่งผลให้เกิดความต้องการใช้ไฟฟ้าพร้อมกันเป็นจำนวนมากในช่วงเวลาดังกล่าว

ทั้งนี้ ข้อมูลจาก กกพ. แสดงให้เห็นแนวโน้มความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกเดือนในปี 2568 โดยสถิติพีกรายเดือนตั้งแต่ต้นปี มีดังนี้:

  • มกราคม: 25 ม.ค. 2568 เวลา 18.48 น. อยู่ที่ 27,953.3 เมกะวัตต์
  • กุมภาพันธ์: 28 ก.พ. 2568 เวลา 19.18 น. อยู่ที่ 30,942 เมกะวัตต์
  • มีนาคม: 29 มี.ค. 2568 เวลา 20.33 น. อยู่ที่ 33,658.3 เมกะวัตต์
  • เมษายน: 22 เม.ย. 2568 เวลา 20.47 น. อยู่ที่ 34,130.1 เมกะวัตต์

อย่างไรก็ตาม แม้สถิติพีกในเดือนเมษายน 2568 จะทำลายสถิติรายเดือนของตัวเอง แต่ยังคงต่ำกว่าสถิติความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดตลอดกาล (All-time Peak) ของประเทศไทย ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2567 เวลา 22.24 น. ที่ระดับ 36,792.1 เมกะวัตต์ โดยในปี 2567 ได้เกิดพีกไฟฟ้าถึง 11 ครั้ง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปรากฏการณ์เอลนีโญที่ทำให้เกิดความร้อนสะสมและอุณหภูมิสูงเป็นพิเศษในหลายพื้นที่ บางแห่งสูงถึง 44 องศาเซลเซียส

สถานการณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นนี้ สะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบโดยตรงของสภาพอากาศที่ร้อนจัดต่อการใช้พลังงานของประเทศ ซึ่งประชาชนควรให้ความสนใจในการใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัดและมีประสิทธิภาพในช่วงหน้าร้อนนี้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *