ขอนแก่น – จากเหตุการณ์ไม่คาดฝันกลางเมืองขอนแก่น เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2568 เวลาประมาณ 11.00 น. เกิดอุบัติเหตุรถพ่วงเทรลเลอร์ที่บรรทุกรถแบ็กโฮได้เกี่ยวเข้ากับสายสัญญาณสื่อสารที่ติดอยู่กับเสาไฟฟ้า ทำให้เสาไฟฟ้าหักโค่นลงมาทับรถยนต์เก๋งที่ขับผ่านมาพอดี จนรถเก๋งได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่สิ่งที่น่าอัศจรรย์คือ คนขับและผู้โดยสารที่มาในรถเก๋งกลับปลอดภัยอย่างเหลือเชื่อ.

จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณสี่แยกตัดถนนศรีจันทร์ ถนนกลางเมือง เขตเทศบาลนครขอนแก่น หลังเกิดเหตุ นายนิพัชร์ธน แก้วกุก รองผู้จัดการด้านเทคนิค การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขาเมืองขอนแก่น พร้อมเจ้าหน้าที่ได้รุดเข้าตรวจสอบและสั่งการให้ปิดการจราจร รวมถึงตัดระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าในบริเวณดังกล่าวทันที เพื่อป้องกันอันตรายจากการไฟฟ้าช็อต.

นายนิพัชร์ธน กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า สายที่เกี่ยวกับรถแบ็กโฮเป็นสายสัญญาณของบริษัทเอกชนต่างๆ ที่พาดอยู่กับเสาไฟฟ้า ส่วนสายไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคไม่ได้รับความเสียหายโดยตรง เพียงแต่หย่อนลงมาเท่านั้น ส่วนเสาไฟฟ้าที่หักโค่นเสียหาย 1 ต้น ประเมินมูลค่าความเสียหายประมาณ 30,000 บาท.

“อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดจากรถบรรทุกมีลักษณะความสูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดสำหรับเส้นทางในเมือง ซึ่งตามกฎหมายกำหนดความสูงของการบรรทุกไม่เกิน 4.2 เมตร แต่รถบรรทุกคันเกิดเหตุมีความสูงถึง 6 เมตร จึงทำให้เกี่ยวเข้ากับสายสัญญาณและเสาไฟฟ้าได้ ถือเป็นความโชคดีที่สายไฟฟ้าไม่ขาดและไม่มีการช็อต ทำให้ไม่มีใครได้รับอันตรายถึงชีวิต” นายนิพัชร์ธน กล่าวและฝากเตือนผู้ขับขี่รถบรรทุกให้ปฏิบัติตามกฎหมายเรื่องความสูงของการบรรทุก.

ด้านนายบุญส่ง คนขับรถบรรทุกเทรลเลอร์ ให้การว่า ตนขับรถบรรทุกแบ็กโฮมาจากกรุงเทพฯ เพื่อจะไปส่งลูกค้าที่จังหวัดอุดรธานี ปกติตนจะใช้เส้นทางถนนมิตรภาพตรงไป แต่ครั้งนี้ได้เปิดใช้แอปพลิเคชัน GPS ซึ่งแนะนำให้เลี้ยวเข้าเมืองขอนแก่นและวิ่งตรงมาตามถนนกลางเมือง จนกระทั่งมาถึงสี่แยกดังกล่าว รถก็เกี่ยวเข้ากับสายสัญญาณและเสาไฟฟ้าจนเกิดอุบัติเหตุขึ้น ได้แจ้งบริษัทและประกันภัยเรียบร้อยแล้ว.

ขณะที่นายเทวิน หรือ นายพีช วินิจฉัย อายุ 27 ปี คนขับรถเก๋ง เล่าด้วยความตื่นเต้นว่า ขณะที่ตนขับรถมาถึงสี่แยกและกำลังจะเลี้ยวซ้ายเข้าถนนศรีจันทร์ สังเกตเห็นรถบรรทุกเกี่ยวสายสัญญาณอยู่แล้ว แต่ไม่คิดว่าตัวเองจะได้รับผลกระทบ จึงขับรถต่อไป จู่ๆ ได้ยินเสียงดังโครมใหญ่ที่หลังคารถ กระจกแตกกระจายไปหมด ตนกับเพื่อนที่นั่งมาด้วยตกใจมาก.

“มีพลเมืองดีวิ่งมาบอกว่า อย่าเพิ่งเปิดประตูรถ เพราะกลัวไฟฟ้าจะช็อต ให้หาวัสดุที่ไม่นำไฟฟ้ามาจับประตูไว้ก่อน รอจนเจ้าหน้าที่การไฟฟ้ามาถึงและยืนยันว่าปลอดภัยแล้ว ตนกับเพื่อนจึงออกมาจากรถ” นายเทวิน กล่าว.

นายเทวิน เสริมว่า รถเก๋งคันที่ขับมีประกันภัยประเภท 1 ก็ปล่อยให้ประกันจัดการไป ส่วนตนเองกับเพื่อนที่ห้อยพระหลวงปู่ทวดติดตัวอยู่ทั้งคู่ ได้ยกมือท่วมหัวกล่าวสาธุพร้อมกัน เพราะเชื่อมั่นว่า เป็นบารมีและปาฏิหาริย์ของหลวงปู่ทวดที่ช่วยให้ตนและเพื่อนแคล้วคลาด รอดตายจากเหตุการณ์ที่น่าจะรุนแรงถึงชีวิตในครั้งนี้ได้อย่างหวุดหวิด.

ทางด้านการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผู้กำกับการ สภ.เมืองขอนแก่น เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนคนขับรถบรรทุก ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาอย่างเป็นทางการ แต่ได้ทำการตรวจยึดรถบรรทุกและรถแบ็กโฮไว้ก่อน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป หลังจากการสอบสวนเสร็จสิ้น จึงจะพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาและปล่อยรถคืนตามกระบวนการ.