สธ. จับมือ WHO ฉลองวันอนามัยโลก 2025 ชู ‘สุขภาพทารก’ หัวใจอนาคตชาติ เดินหน้าลดปัญหาคลอดก่อนกำหนด
กรุงเทพฯ – กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมอนามัย ร่วมกับองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย จัดงานเฉลิมฉลองวันอนามัยโลก ประจำปี 2025 เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2568 ณ กรมอนามัย ภายใต้กรอบแนวคิดหลัก “สุขภาพทารกที่ดี คือ จุดเริ่มต้นของความหวังและอนาคตที่สดใส” เพื่อตอกย้ำความสำคัญของการดูแลสุขภาพทารกและมารดา โดยมีบุคคลสำคัญจากหลากหลายภาคส่วนเข้าร่วมงาน.
นำโดย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย, ดร. จอส ฟอนเดลาร์ ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย, นางคยองซอน คิม ผู้แทนองค์การยูนิเซฟ ประจำประเทศไทย, นางสาวสิริลักษณ์ เชียงว่อง หัวหน้าสำนักงานกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ (UNFPA) ประจำประเทศไทย และผู้บริหารจากกระทรวงสาธารณสุข.
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการดูแลสุขภาพมารดาและทารกอย่างมีคุณภาพ กระทรวงสาธารณสุขได้พัฒนานโยบายและยกระดับบริการอนามัยแม่และเด็กมาอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมตั้งแต่การดูแลครรภ์ การส่งเสริมให้หญิงตั้งครรภ์ได้รับการดูแลสม่ำเสมอ การส่งต่อผู้ป่วยความเสี่ยงสูง ไปจนถึงการดูแลทารกหลังคลอด โดยมีนโยบาย ‘30 บาท รักษาทุกที่’ เป็นกลไกสำคัญในการเพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพ.
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ย้ำว่า ความสำเร็จในการดูแลสุขภาพแม่และเด็กต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และกระทรวงสาธารณสุขจะยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาสิทธิการรักษาตามหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เพื่อให้มารดาและทารกทุกคนได้รับการดูแลที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และเท่าเทียมกัน.
ด้าน ดร. จอส ฟอนเดลาร์ ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย กล่าวชื่นชมความพยายามอย่างจริงจังของกระทรวงสาธารณสุขไทยในการแก้ไขปัญหาการคลอดก่อนกำหนด ซึ่งเป็นวิกฤตสุขภาพระดับโลก โดยในปี 2023 พบว่ามีทารกคลอดก่อนกำหนดทั่วโลกถึงร้อยละ 11 แม้ตัวเลขจะยังสูง แต่ไทยถือว่ามีผลงานโดดเด่นในภูมิภาค โดยเฉพาะการลดอัตราการตายมารดาได้สำเร็จ.
ดร. ฟอนเดลาร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า WHO เล็งเห็นถึงความคิดริเริ่มต่างๆ ของไทย เช่น การมีส่วนร่วมของชุมชน การปรับปรุงการคัดกรองความเสี่ยงและการติดเชื้อ การดูแลก่อนคลอดที่ดีขึ้น และการให้ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนในกลุ่มเสี่ยง ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการลดอัตราการเสียชีวิตของทารกแรกเกิดก่อนกำหนด อย่างไรก็ตาม การลดอัตราการคลอดก่อนกำหนดยังคงเป็นความท้าทายสำคัญ ภายใต้การรณรงค์วันอนามัยโลก 2025.
แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวเสริมว่า อัตราการคลอดก่อนกำหนดในประเทศไทยยังคงเกินเกณฑ์เป้าหมาย กรมอนามัยจึงสนับสนุนให้หญิงตั้งครรภ์ฝากครรภ์ให้เร็วที่สุด (ก่อน 12 สัปดาห์) และมุ่งมั่นให้บริการตามมาตรฐานอนามัยแม่และเด็ก ให้ความรู้ สร้างความตระหนักถึงสัญญาณอันตราย และเฝ้าติดตามช่วยเหลือกลุ่มเสี่ยง พร้อมเน้นย้ำการตรวจคัดกรองโรคและการบริหารระบบส่งต่อที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งสอดคล้องกับการน้อมนำพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการพัฒนางานแม่และเด็กภายใต้โครงการต่างๆ.
นายแพทย์ปกรณ์ ตุงคเสรีรักษ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวปิดท้ายว่า การเฉลิมฉลองวันอนามัยโลก 2025 นี้ จะเป็นโอกาสสำคัญในการเพิ่ม ความรอบรู้ด้านสุขภาพ (Health Literacy) ให้แก่แม่และครอบครัว เป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้วางนโยบาย และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคีเครือข่าย เพื่อป้องกันและพัฒนางานด้านสุขภาพทารกและมารดาร่วมกันอย่างยั่งยืน.