ซินเคอหยวน ตกซ้ำ! เหล็กข้ออ้อย 20 มม. ไม่ได้มาตรฐาน สถาบันเหล็กฯ ยัน ‘เบากว่าเกณฑ์’ กระทรวงอุตฯ จ่อส่ง DSI ประกอบสำนวนคดี สตง.

กรุงเทพฯ – กระทรวงอุตสาหกรรมเปิดเผยผลการตรวจสอบเหล็กเส้นเพิ่มเติมจากพื้นที่อาคาร สตง. ยืนยันพบเหล็กเส้นข้ออ้อยขนาด 20 มม. ยี่ห้อ ซินเคอหยวน ตกมาตรฐานค่ามวลต่อเมตร หรือ ‘เหล็กเบา’ ซ้ำเป็นครั้งที่สอง เตรียมส่งผลตรวจให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ใช้ประกอบสำนวนคดีอาคาร สตง. ถล่ม

นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2568 ว่า จากการที่ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้สั่งการให้ทีมตรวจการสุดซอยของกระทรวงฯ ร่วมกับ ดีเอสไอ เข้าดำเนินการเก็บตัวอย่างเหล็กเส้นจากพื้นที่อาคาร สตง. เพิ่มเติม เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา ขณะนี้ผลการตรวจสอบจากสถาบันเหล็ก และเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย ได้ออกมาครบถ้วนแล้ว

ผลการตรวจสอบพบว่า มีเหล็กเส้นข้ออ้อยขนาด 20 มม. ชนิด SD40T ที่ผลิตด้วยกรรมวิธี IF (Induction Furnace) ยี่ห้อ SKY (ซินเคอหยวน) ตกทดสอบค่ามวลต่อเมตร หรือมีน้ำหนักเบากว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ ซึ่งเป็นผลลัพธ์เดียวกันกับการทดสอบในครั้งก่อนหน้า เมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคม 2568

นายพงศ์พล ยืนยันว่า กระทรวงอุตสาหกรรมจะเร่งส่งต่อผลการตรวจสอบล่าสุดนี้ให้กับ ดีเอสไอ เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานในสำนวนการสืบสวนสอบสวนกรณีอาคาร สตง. ถล่ม ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวเป็นการตรวจสอบเพื่อสนับสนุนข้อมูลให้กับดีเอสไอในคดีอาคาร สตง. โดยเฉพาะ ซึ่งแยกออกจากการดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ผลิตในเรื่องมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ซึ่งกระทรวงฯ ได้ดำเนินการไปแล้วก่อนหน้านี้ โดยใช้หลักฐานตามผลตรวจครั้งแรกเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2568

โฆษกกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าวย้ำว่า การตรวจสอบมาตรฐานของสถาบันเหล็กฯ ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ของสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) อย่างเคร่งครัด ตกคือตก ผ่านก็คือผ่าน ไม่มีข้อยกเว้น ผลการตรวจรอบนี้ที่พบเหล็กข้ออ้อย 20 มม. ของซินเคอหยวน ตกค่ามวลต่อเมตรซ้ำอีกครั้ง ขณะที่เหล็กข้ออ้อย 32 มม. ซึ่งเคยตกค่า yield ในการทดสอบครั้งแรก กลับผ่านการทดสอบในรอบนี้ ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความโปร่งใสในการตรวจสอบของภาครัฐ

นายพงศ์พล กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากนี้ บริษัท ซินเคอหยวน คงจะต้องเตรียมคำชี้แจงเพื่อตอบข้อซักถามกับทาง ดีเอสไอ โดยตรง ซึ่งเหตุการณ์นี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของภาพรวมการปราบปราม ‘อุตสาหกรรมศูนย์เหรียญ’ ที่รัฐมนตรีเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ได้สั่งการให้บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังกับธุรกิจที่ไม่สร้างมูลค่าหรือคุณภาพให้กับคนไทย โดยเฉพาะโรงงานผลิตเหล็กราคาถูกแต่ไม่ได้มาตรฐาน

ตลอดระยะเวลา 7 เดือนที่ผ่านมา ทีมตรวจการของกระทรวงอุตสาหกรรมได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยึดและอายัดเหล็กเส้นที่ไม่ได้มาตรฐานซึ่งส่วนใหญ่เป็นเหล็กเส้น IF สำหรับงานก่อสร้าง ที่เชื่อว่ามีเนื้อเหล็กไม่ได้คุณภาพ มูลค่ารวมกว่า 384.4 ล้านบาท จากเหตุผลดังกล่าว รัฐมนตรีเอกนัฏ จึงได้มีข้อสั่งการให้เสนอวาระเข้าที่ประชุมคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (กมอ.) เพื่อพิจารณายกเลิกการรับรองมาตรฐานเหล็กที่ผลิตด้วยกรรมวิธี IF ต่อไปในอนาคต เพื่อยกระดับคุณภาพเหล็กที่ใช้ในประเทศและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้เหล็กที่ไม่ได้มาตรฐาน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *