พาณิชย์ยกเครื่องแผนปราบ ‘นอมินี’ ขยาย 6 ธุรกิจเป้าหมาย พบผิดนับร้อย จ่อชงกฎหมายยึดทรัพย์ผู้เกี่ยวข้อง
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่นางสาวแพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เร่งรัดให้แก้ไขปัญหา นอมินี อย่างเร่งด่วน ประกอบกับการร้องเรียนและแจ้งเบาะแสเข้ามาอย่างต่อเนื่อง กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจึงได้ปรับแผนการตรวจสอบนอมินีสำหรับปี 2568 ให้มีความเข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะการขยายประเภทของธุรกิจที่น่าสงสัยว่าอาจมีการใช้คนไทยเป็นนอมินีเพื่อประกอบธุรกิจโดยผิดกฎหมาย จากเดิม 3 กลุ่ม เป็น 6 กลุ่ม เพื่อให้การตรวจสอบครอบคลุมและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ธุรกิจ 6 กลุ่มเป้าหมายที่ถูกเพิ่มเข้ามาในการตรวจสอบอย่างเข้มงวด ได้แก่:
- ธุรกิจท่องเที่ยวและที่เกี่ยวเนื่อง เช่น ภัตตาคาร ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก
- ธุรกิจค้าที่ดินและอสังหาริมทรัพย์
- ธุรกิจ e-Commerce การขนส่ง และคลังสินค้า
- ธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท
- ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการเกษตร
- ธุรกิจก่อสร้างทั่วไป
นางอรมน กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบว่า มีนิติบุคคลไทยที่ชาวต่างชาติมีการถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน 0.01-49.99% ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายในการตรวจสอบเชิงลึก จำนวนทั้งสิ้น 46,918 ราย โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะดำเนินการตรวจสอบทั้งในเชิงข้อมูลการจดทะเบียนและการลงพื้นที่จริง ร่วมกับคณะทำงานปราบปรามสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งมีร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน รวมถึงหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ความคืบหน้าล่าสุดของการตรวจสอบ นางอรมนระบุว่า ได้มีการตรวจสอบไปแล้วกว่า 1,000 ราย และพบว่ามีนิติบุคคลที่น่าสงสัยว่าจะเป็นนอมินีประมาณ 100 ราย ซึ่งข้อมูลของนิติบุคคลเหล่านี้ได้ถูกส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตามกฎหมายแล้ว โดยส่วนใหญ่ของกรณีที่พบปัญหาอยู่ในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเร่งแก้ไขปัญหาธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ โดยในช่วงที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2567 ถึง 31 มีนาคม 2568 กรมฯ ได้ดำเนินการดำเนินคดีกับนิติบุคคลที่เข้าข่ายนอมินีไปแล้วจำนวน 851 ราย ซึ่งประเมินว่าสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจเป็นมูลค่ารวมกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท
เพื่อขจัดวงจรนอมินีอย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น กรมพัฒนาธุรกิจการค้ายังได้ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เตรียมเสนอร่างกฎหมายเพื่อเปิดช่องให้สามารถยึดทรัพย์สินของบุคคลที่ให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน หรือร่วมประกอบธุรกิจกับคนต่างด้าวในลักษณะที่เป็นนอมินี ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
ขณะนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวอยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนบนเว็บไซต์ระบบกลางทางกฎหมาย (https://law.go.th) ผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปแสดงความคิดเห็นได้จนถึงวันที่ 25 เมษายน 2568 หลังจากสิ้นสุดกระบวนการรับฟังความคิดเห็นแล้ว สำนักงาน ปปง. จะพิจารณาเพื่อเสนอร่างกฎหมายนี้ต่อคณะรัฐมนตรี จากนั้นจึงจะนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาเพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป