ความเคลื่อนไหวล่าสุดจากวงการฟุตบอลอังกฤษ เมื่อสโมสร นอริช ซิตี้ ทีมในศึกอีเอฟแอล แชมเปียนชิพ ได้สร้างความประหลาดใจด้วยการประกาศแต่งตั้ง แจ๊ก วิลเชียร์ อดีตกองกลางชื่อดังของอาร์เซนอล ให้ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งกุนซือรักษาการของทีมอย่างเป็นทางการ จนกระทั่งจบฤดูกาลนี้

การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ นอริช ซิตี้ ทำผลงานได้ไม่น่าประทับใจในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพ่ายแพ้ต่อ มิลวอลล์ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้สถานการณ์ในตารางคะแนนของพวกเขายิ่งยากลำบาก นอริช ซิตี้ ปัจจุบันรั้งอยู่ในอันดับที่ 14 ของตาราง มีคะแนนห่างจากโซนเพลย์ออฟเพื่อเลื่อนชั้นถึง 13 แต้ม ในขณะที่เหลือการแข่งขันเพียงไม่กี่นัด

จากผลงานที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมายดังกล่าว ทำให้บอร์ดบริหารของสโมสร นอริช ซิตี้ ได้ตัดสินใจปลด โยฮานเนส ฮอฟฟ์ โธรัป ผู้จัดการทีมคนเก่าออกจากตำแหน่งทันที พร้อมทั้งได้มอบหมายภารกิจอันท้าทายให้กับ แจ๊ก วิลเชียร์ ซึ่งก่อนหน้านี้มีบทบาทในการทำงานร่วมกับทีมเยาวชนของสโมสรอยู่แล้ว ให้เข้ามาคุมทีมชุดใหญ่เป็นการชั่วคราวจนจบฤดูกาล 2023/2024

ภายใต้บทบาทกุนซือรักษาการ แจ๊ก วิลเชียร์ จะได้นำทัพ ‘นกขมิ้นสีเหลืองอ่อน’ ลงสนามในเกมที่เหลืออีก 2 นัดของฤดูกาล โดยจะเป็นการพบกับ มิดเดิลสโบรห์ และ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ซึ่งเป็นที่น่าจับตาอย่างยิ่งว่า เกมสุดท้ายของฤดูกาลที่ต้องเจอกับ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ นั้น จะเป็นการปะทะกันของสองอดีตแข้ง ‘ปืนใหญ่’ อาร์เซนอล เนื่องจาก คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ เองก็เพิ่งจะแต่งตั้ง อารอน แรมซีย์ อดีตเพื่อนร่วมทีมของวิลเชียร์ที่อาร์เซนอล ขึ้นมารับตำแหน่งกุนซือรักษาการของทีมเช่นเดียวกัน ทำให้การเผชิญหน้ากันระหว่างสองสโมสรในเกมสุดท้ายจะยิ่งเพิ่มดีกรีความน่าสนใจเข้าไปอีก

การขยับขึ้นมาคุมทีมชุดใหญ่ของ แจ๊ก วิลเชียร์ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในเส้นทางอาชีพผู้จัดการทีมของเขา หลังจากที่เคยเป็นนักเตะขวัญใจแฟนบอลอาร์เซนอลมาอย่างยาวนาน และนี่จะเป็นโอกาสที่เขาจะได้แสดงฝีมือในการคุมทีมในระดับอาชีพอย่างเต็มตัว แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ก็ตาม ต้องติดตามดูกันว่า วิลเชียร์จะสามารถพาทีม นอริช ซิตี้ จบฤดูกาลได้อย่างไรใน 2 เกมสุดท้ายนี้