นายกฯ สั่งเข้ม สกัด ‘สวมสิทธิ์สินค้าไทย’ เร่งแก้กฎหมายลงโทษหนัก หวังฟื้นส่งออก

ทำเนียบรัฐบาล, 22 เมษายน 2568 – น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านสื่อสังคมออนไลน์ภายหลังการหารือกับปลัดกระทรวงพาณิชย์ กรมศุลกากร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าไทย เกี่ยวกับมาตรการป้องกันและปราบปรามปัญหาการสวมสิทธิ์สินค้าไทย ซึ่งส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือและการส่งออกของผู้ประกอบการไทย

นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการแก้ปัญหานี้ โดยในระยะสั้น ได้มอบหมายให้กรมการค้าต่างประเทศเป็นหน่วยงานหลักในการหารือร่วมกับ US Custom and Border Protection (CBP) เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ใหม่ในการออกใบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (Certificate of Origin) ให้มีความรัดกุมมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งให้เฝ้าระวังการสวมสิทธิ์เป็นสินค้าไทยอย่างเข้มงวดสำหรับสินค้า 65 รายการ ใน 224 พิกัด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าอุตสาหกรรม

สำหรับมาตรการในระยะยาว นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการปรับปรุงกฎหมายเพื่อเพิ่มบทลงโทษให้มีความรุนแรงและเด็ดขาดมากยิ่งขึ้น สำหรับบริษัทที่กระทำการสวมสิทธิ์สินค้าไทย

“เชื่อมั่นว่า หากเกิดความเข้มงวดในการตรวจสอบถิ่นกำเนิดของสินค้า จะทำให้ปริมาณการสวมสิทธิ์สินค้าลดลงเป็นอย่างมาก ภายในระยะเวลา 90 วัน และจะเป็นการเปิดโอกาสให้กับผู้ประกอบการในไทย รวมถึง SMEs ไทยในการดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สินค้าไทยและวัตถุดิบไทย ส่งออกไปยังต่างประเทศได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการเพิ่มมูลค่าทางการค้าของไทยอย่างแท้จริง”

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

การดำเนินการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพและแหล่งกำเนิดของสินค้าไทยในตลาดโลก ปกป้องสิทธิประโยชน์ของผู้ประกอบการไทยที่ผลิตสินค้าอย่างถูกต้อง และผลักดันการส่งออกให้เติบโตอย่างยั่งยืน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *