มิสทิน จับมือ กรมทะเลฯ ทช. ทุ่ม 3 ล้านบาท สานต่อภารกิจอนุรักษ์ทะเลไทยต่อเนื่องปีที่ 4

กรุงเทพฯ – วันที่ 21 เมษายน 2568 ณ ห้องประชุมลำแพน ชั้น 9 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พร้อมคณะ ได้ให้การต้อนรับคุณปราการ สท้านโยธิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท เบทเตอร์เวย์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ในนามผู้จัดจำหน่ายเครื่องสำอางมิสทิน (Mistine) พร้อมคณะผู้บริหาร เพื่อหารือและวางแผนการดำเนินกิจกรรมความร่วมมือด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่งตลอดปี 2568 โดยมีมูลค่าโครงการรวมกว่า 3,000,000 บาท

การหารือในครั้งนี้เป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของทั้งสองหน่วยงานในการทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง โดยมิสทินได้ร่วมสนับสนุนภารกิจของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งมาเป็นปีที่ 4 แล้ว โครงการความร่วมมือนี้มีเป้าหมายสำคัญเพื่อส่งเสริมการปลูกจิตสำนึกและสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รวมถึงการฟื้นฟูระบบนิเวศที่เสื่อมโทรม

นอกจากนี้ มิสทินยังได้ส่งมอบผลิตภัณฑ์และสิ่งของจำเป็นเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ประกอบด้วย เสื้อปฏิบัติการใต้น้ำ และผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดมิสทิน ซึ่งมีความพิเศษคือเป็นครีมกันแดดที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาให้เป็นมิตรต่อระบบนิเวศทางทะเลและปะการัง สอดคล้องกับนโยบายการดำเนินงานที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

คุณปราการ สท้านโยธิน กล่าวแสดงความยินดีและภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนภารกิจอันสำคัญของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยเน้นย้ำว่ามิสทินให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับโครงการด้านความยั่งยืนและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบนิเวศทางทะเล ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของประเทศไทย

ด้าน ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี กล่าวขอบคุณมิสทินสำหรับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านงบประมาณและสิ่งของจำเป็น พร้อมกล่าวถึงความสำคัญของการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการขับเคลื่อนงานด้านการอนุรักษ์ ซึ่งการสนับสนุนจากภาคเอกชนเช่นมิสทิน มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการยกระดับการดำเนินงานและขยายผลการอนุรักษ์ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

ความร่วมมือระหว่างมิสทินและกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในครั้งนี้ ถือเป็นแบบอย่างที่ดีของภาคธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมความงาม ซึ่งสามารถมีส่วนร่วมในการสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกได้อย่างแท้จริง การมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ครีมกันแดดที่ไม่ทำร้ายปะการัง ยังเป็นการส่งสัญญาณที่ดีไปยังผู้บริโภค ให้ตระหนักถึงผลกระทบของผลิตภัณฑ์ที่ใช้ และหันมาเลือกซื้อสินค้าที่สนับสนุนการอนุรักษ์

ทั้งสองฝ่ายเชื่อมั่นว่า ความร่วมมือมูลค่ากว่า 3 ล้านบาทในปี 2568 นี้ จะนำไปสู่การดำเนินกิจกรรมที่มีประสิทธิภาพ สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนให้กับทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งของไทย และเป็นส่วนสำคัญในการสร้างอนาคตที่ดีให้กับทะเลไทยสืบไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *